ราชบุรี ในวันนี้( 11 ต.ค. 65 ) ร.ต.อ.สนธยา เย็นใจ ร้อยเวรสภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ที่บริเวณโคนเสาไฟฟ้า หน้าบ้านเลขที่ 1 หมู่ 4 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกฆาตกรรม จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วัชระพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.สภ.ปากท่อ และนายพุฒิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ ได้รับทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ปากท่อ แพทย์เวรโรงพยาบาลปากท่อ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ราชบุรี จุดปากท่อ ในที่เกิดเหตุพบศพหญิงชรา สวมเสื้อคอกระเช้าลายดอก นุ่งผ้าถุงลายดอก สภาพศพนอนกองอยู่ที่โคนเสาไฟฟ้า ตามร่างกายพบบาดแผลถูกของมีคมปาดที่คอ และมีบาดแทงถูกแทงที่หน้าอก หลังและที่ขา ส่วนมือทั้งสองข้างมีบาดแผลถูกของมีคมบาดด้วย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนางสาว คั้ง ทองไร่ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามนางสาวพุทธรักษา บุญอานันทนะ ผู้ช่วยสารวัตรกำนัน ต.ยางหัก ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พระในวัดป่าพุหวาย ได้มาบิณฑบาต ก็เห็นยายคั้ง นอนอยู่โคนเสาไฟ ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นลม จึงไปบอกลูกศิษย์ให้มาดู ซึ่งเมื่อลูกศิษย์มาดูก็เห็นว่ามีบาดแผลตอนแรกคิดว่าหมากัด แต่พอดูใกล้เห็นว่าที่คอมีแผล จึงได้แจ้งไปทางผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยดูอีกครั้งและมาพบว่ายายคั้ง นั้นตายแล้วและมีร่องรอยการถูกทำร้าย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นคนในละแวกบ้านเดียวกันที่มาทำร้าย ยายคั้ง ซึ่งไม่น่ามาทำร้ายยายเลย เพราะยายไม่มีพิษภัยกับใคร ใครจ้างก็ไปทำงานให้ พอตกเย็นก็จะไปดูข่าวในทีวีที่บ้านของน้องสาว ซึ่งอยู่ห่างไม่ไกล พอดูข่าวจบก็จะเดินกลับมานอนที่บ้านเพราะบ้านยายไม่มีทีวี ส่วนเรื่องอาหารการกินก็จะมีหลวงพ่อที่วัดป่าพุหวาย นำมาให้เป็นประจำ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนที่ทำร้ายยายให้ได้ เพราะเชื่อว่าน่าจะหวังแค่เอาเงินจากยาย เพราะกระเป๋าของยายหายไปและก่อนที่ยายจะกลับบ้านเมื่อคืนน้องสาวของยายก็ให้เงินยายมาด้วย 120 บาท ซึ่งการฆ่ายายในครั้งนี้ก็น่าจะหวังแค่เงินอย่างเดียว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปสอบถามพระภายในวัดป่าพุหวาย ที่มาพบยาย คั้ง เป็นองค์แรกก็บอกว่า เห็นโยมนอนอยู่ตอนแรกก็คิดว่าเป็นลม จึงให้ลูกศิษย์มาดูแต่ก็พบว่า ยายคั้ง นั้นตายแล้ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปควบคุมตัวชายต้องสงสัยรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นคนที่ติดเหล้าอย่างหนัก มาสอบสวนแต่ยังให้การอะไรไม่ได้เพราะเมาหนักมาก เจ้าหน้าที่ต้องรอให้สร่างเมาเสียก่อนจึงจะทำการสอบปากคำ รวมทั้งพบมีด เสื้อผ้าเปื้อนเลือดและกระเป๋าของยายที่บ้านของผู้ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานและจะนำส่งตรวจเพื่อเปรียบเทียบดีเอนเอด้วย เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องรอสอบปากคำผู้ต้องสงสัยก่อนที่จะตั้งข้อกล่าวหาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: