ราชบุรี จากกรณีที่รถเครื่อง 2 ลำ แล่นแข่งกันมาและมาชนเรือพายของนายสมพงษ์ นิ่มนวล อายุ 63 ปี ที่พานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปเที่ยวชมตลาดน้ำดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวและหลัง ส่วนนักท่องเที่ยวนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทุกคนอยู่ในอาการตื่นตระหนก โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 8 ก.พ.66 ที่ผ่านมา
ซึ่งความคืบหน้าในวันนี้ (9 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางยุวันดา อุรุพงศา เจ้าของท่าเรือยุวันดาในตลาดน้ำดำเนินสะดวก ที่นายสมพงษ์ นั้นเป็นลูกจ้างพายเรืออยู่ ก็บอกว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก ได้มาสอบถามข้อมูลแล้ว และได้ให้ไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นขับเรือเครื่องทั้งสองคนที่สภ.ดำเนินฯ แล้ว และได้มีการตกลงจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับนายสมพงษ์ เป็นเงิน 5,000 บาท ส่วนเรื่องของการดำเนินคดีหรือไม่นั้นต้องไปสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกรมเจ้าท่า ส่วนตัวนั้นพอใจกับการเยียวยาแล้ว และอยากฝากบอกไปยังคนขับเรือทุกคนว่า อย่าเอาอารมณ์ หรือเรื่องส่วนตัวมาระบายในคลองเพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับตลาดน้ำได้
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามเรื่องการบังคับใช้พรบ.การขับเรือกับ นายสุริยา กิตติมณฑล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่า เขต 3 ก็บอกว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้เรือทั้งสองลำได้ส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่งแล้ว และกำลังจะกลับมาที่ท่าเรือ ขณะขับมาถึงที่เกิดซึ่งจะมีการแซงกันขึ้นทำให้เรือเสียหลักและไปชนเรือพาย แต่ก็ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ หลังทราบเรื่องทางกรมเจ้าท่าก็ได้ส่งคนมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และวันนี้ก็ได้เรียกคนขับเรือทั้งสองคนมาพูดคุยเพื่อปรับทัศนคติ และทำการระงับใบประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือ เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนก็จะมีโทษจำคุก จึงอยากให้นักท่องเที่ยวได้มั่นใจว่ากรมเจ้าท่ามีมาตราการในการดูแลเรื่องคนขับเรือ ความเร็ว การบรรทุก และการสวมใส่เสื้อชูชีพและติดตั้งกล้อง cctv รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแล ส่วนการดูแลผู้บาดเจ็บนั้นทางคนขับเรือได้จ่ายเงินเยียวยาให้ไปแล้ว แต่สำหรับเรือพายนั้นไม่ได้อยู่ในทะเบียนเรือของกรมเจ้าท่า แต่ผู้โดยสารนั้นก็ควรสวมใส่เสื้อชูชีพด้วยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งได้มีการแจ้งไปยังท่าเรือทุกท่าแล้ว และพบว่า 90% นั้นให้ความร่วมมือ แต่อาจจะมีบ้างที่ไม่สวมใส่อาจจะเนื่องด้วยสภาพอากาศ และคิดว่าไปไม่ไกล แต่หลังจากนี้จะบังคับให้สวมใส่ทุกคน
