ราชบุรี จากเหตุการณ์ ที่ใช้อาวุธมีดแทงกันจนมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณปากซอย8 ถนนเลียบคลองชลประทาน ม.5 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ นายปัญญา สาจิตร อายุ 32 ปี ซึ่งอยู่ม.6 ต.คลองตาคต ผู้ถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายได้1คนคือ น.ส.พลอย พูนสุวรรณ์ อายุ 35 ปี เป็นภรรยาของนายจีรวัฒน์ อยู่หนู อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.5 ต.คลองตาคต ผู้ก่อเหตุที่ยังหลบหนีอยู่
ล่าสุดในวันนี้ ( 2 มี.ค. 66) พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม พ.ต.ท.วิชยานนท์ เอกตาแสง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สว.สส.พร้อมนำกำลังชุดสืบสวน สภ.โพธาราม ได้ไปควบคุมตัวนาย วีระเดช หรือหนึ่ง สระคำ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/1 ม.4 ต.คลองตาคต ภายหลังสืบทราบว่า นายหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์ และเป็นผู้ที่ใช้มีดอีโต้ถือแกว่งไปมา ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งขณะที่นายจีรวัฒน์ กำลังก่อเหตุ หลังจากเจอตัวก็พาไปชี้จุดที่เอามีดอีโต้ไปไว้ พร้อมทำแผนชี้จุดซ่อนตัว โดยนายหนึ่งให้การณ์ว่า คืนเกิดเหตุมีคนอยู่กันทั้งหมด 6 คนรวมคนตาย ก่อนเกิดเหตุตนและนายวีรวัฒน์ ผู้ต้องหา และ น.ส.พลอย มาเจอผู้ตายโดยบังเอิญ ส่วนผู้ตายมากับภรรยาชื่อเจน และเพื่อนชายอีกคนชื่อบอม ขณะที่ผู้ตายกับนายวีรวัฒน์ กำลังมีปากเสียงกันและเข้าทำร้ายกัน ตนจึงเอามีดอีโต้ขึ้นมาพร้อมกับพูดว่าใครอย่าเข้ามายุ่ง ให้2คนต่อยกันเองห้ามรุม แต่ไม่คิดว่านายวีรวัฒน์จะชักมีดพกมาแทงผู้ตาย ซึ่งตนยังถามนายวีรวัฒน์ว่าไปแทงเขาทำไม ก่อนที่จะพากันหลบหนี จนในที่สุดก็มาถูกคุมตัว
อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนและลงบันทึกจับกุมตัวนายหนึ่งไว้ก่อนในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนทำให้เสียชีวิต แต่ถ้าจับกุมตัวนายวีรวัฒน์ผู้ตองหาได้ถ้าคำให้การตรงกันกับนายหนึ่ง ก็จะได้รับโทษจากหนักเป็นเบา
ส่วนสาเหตุนั้นมาจากฝ่ายของผู้ต้องหาไปยืมรถจักรยานปั่นสองล้อมาใช้ แต่เกิดหายไป ทางผู้ต้องหาจึงได้ไปบอกผู้ตายว่าตนขอเอารถ จยย.ของตนมาไว้เพื่อค้ำประกันเพื่อความสบายใจของผู้ตาย หลังจากนั้นทางผู้ตายเกิดไปถอดชิ้นส่วนรถออก ทำให้นายวีรวัฒน์ไม่พอใจ จึงเกิดมีปัญหากันมาตลอด และจากการเช็คประวัตินายวีรวัฒน์ ผู้ต้องหา ทราบว่าพึ่งพ้นโทษคดีแทงคนตายมาเมื่อประมาณ2 ปีที่ผ่านมา และก็มาก่อคดีอีก
