X

นำกระเจี๊ยบวัชพืชพื้นบ้านมาพัฒนาสูตรเป็นอาหาร น้ำ และขนมแสนอร่อย

ราชบุรี    กระเจี๊ยบวัชพืชพื้นบ้านหรือกระเจี๊ยบมอญลักษณะสีแดงสด  เป็นวัชพืชในท้องถิ่นที่ขึ้นอยู่ตามท้องไร่ ท้องนาทั่วไป ชาวบ้านนิยมเด็ดเอายอดอ่อนมาจิ้มกับน้ำพริก เหลือไว้แต่ดอกสีแดงที่มีให้เห็นอยู่เต็มต้น  จะออกดอกปีละ 1 ครั้ง  ซึ่งที่ไร่สุขพ่วง ตั้งอยู่เลขที่ 107 หมู่ 10 ต.จอมบึง อ.จอมบึง  มีนายอภิวรรษ สุขพ่วง ประธานไร่สุขพ่วง พร้อมสมาชิกเป็นชาวบ้านใกล้เคียงเห็นคุณค่าและประโยชน์ของดอกกระเจี๊ยบ จึงมีแนวคิดเก็บดอกนำมาแปรรูปเป็นเมนูอาหาร  หลังปลูกและเก็บเกี่ยวพร้อมคัดแยกดอกเพื่อใช้อุปกรณ์แงะเอาเม็ดออกนำมาล้างน้ำตากแดดให้แห้งใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ เตรียมมาแปรรูปเมนูอาหารคาว หวาน  เช่น น้ำกระเจี๊ยบผสมโซดาจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว  เปิดขายอยู่ในตลาดอมยิ้ม ภายในวัดวาปีสุธาวาส อ.จอมบึง ทุกวันเสาร์และอาทิตย์   ต่อมาเริ่มมีการต่อยอดคิดทำเมนูเพิ่มมูลค่าจากดอกกระเจี๊ยบมากขึ้น  เช่น กระเจี๊ยบหยี   แยมกระเจี๊ยบ  ขนมกุยช่าย ปอเปี๊ยะแป้งกระเจี๊ยบ น้ำจิ้มใส่กระเจี๊ยบ  สาคูกระเจี๊ยบ ไซรัปกระเจี๊ยบ ขนมปังไส้กระเจี๊ยบ   เค้กไข่ไส้กระเจี๊ยบ และอีกหลายเมนู  ด้วยรสชาติของกระเจี๊ยบที่ออกอมเปรี้ยว ทำให้ที่ไร่มีแนวคิดนำมาผสมใส่แทนมะนาวที่มีรสชาติเปรี้ยวและมะนาวกำลังมีราคาแพง ยังทำให้สีสันออกแดงระเรื่อของน้ำจิ้มน่ารับประทานถือเป็นน้องใหม่ของวงการน้ำจิ้มไทยที่ใช้กระเจี๊ยบเป็นวัตถุดิบซึ่งกำลังเป็นที่ได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้

            ซึ่ง นายอภิวรรษ  สุขพ่วง ประธานไร่สุขพ่วง อายุ 35 ปี  กล่าวว่า ชุมชนจอมบึงมีชาติพันธุ์อาศัยอยู่หลายชาติพันธุ์  1 ในนั้นมีชาติพันธุ์ชาวมอญ เป็นกลุ่มคนที่อพยพเข้ามาอยู่ในชุมชนนานแล้ว นิยมทำอาหารหลากหลาย รวมทั้งการนำกระเจี๊ยบแดงมาเป็นส่วนประกอบอาหารตามวิถีชีวิต กระเจี๊ยบมอญเป็นพืชที่ให้รสชาติเปรี้ยว โดยจะมีรสชาติเปรี้ยวทั้งต้น  ชาวมอญจึงนิยมเอาใบ ยอดอ่อนมาประกอบอาหาร เช่น ต้มปลา แกงส้ม ไม่จำเป็นต้องใช้มะนาวหรือ มะขามเปียก จะใช้ใบกระเจี๊ยบเป็นตัวให้รสชาติเปรี้ยวแทน  จนมีการปลูกแพร่หลายในสภาพดินพื้นที่ทั่วไป ชาวบ้านมองเป็นวัชพืชนำไปสู่การทำลายทิ้งด้วยวิธีการต่างๆ  น้อยคนที่จะเห็นคุณค่า

                 ไร่สุขพ่วงมองว่าน่าจะเป็นพืชที่ช่วยสร้างคุณประโยชน์ได้ ส่วนกระเจี๊ยบจะปลูกขึ้นช่วงหน้าฝน เก็บเกี่ยวช่วงฤดูหนาว ดอกกระเจี๊ยบมีรสชาติเปรี้ยวคล้ายกับพวกตระกูลเบอรี่ เลยคิดนำดอกกระเจี๊ยบมาเพิ่มมูลค่า ช่วงแรกชาวบ้านนำดอกมาตากแดดให้แห้งชงดื่มกันทั้งปี  จึงคิดพัฒนาทำสูตรน้ำกระเจี๊ยบเข้มข้น หรือ น้ำกระเจี๊ยบไซรัป หรือ น้ำหวานที่เอาไปชงดื่มแบบเจือจาง ใช้วิธีนำกระเจี๊ยบสดนำมาทำให้สุกด้วยตัวเอง โดยไม่มีองค์ประกอบของน้ำมาเกี่ยวข้อง คือ นำมาอบด้วยแรงดันไอน้ำเพื่อให้สุก  จากนั้นใช้น้ำตาลในการรักษารสชาติและอายุ  โดยเอาน้ำตาลมาโรยทำให้ได้สี กลิ่น รสชาติออกมาในรูปแบบของน้ำเชื่อมได้อย่างครบถ้วน พอได้ออกมาก็เอาไปชง ไปเจือจางในน้ำ  ถ้าอยากให้สดชื่นจะใส่โซดาลงไปเล็กน้อยชงพร้อมดื่มกินร่วมกับขนมหวานทั่วไป หรือเอาไปตกแต่งหน้าขนมอื่นๆ  เมื่อสกัดเอาไซรัปออกมาได้แล้วก็ยังมีเนื้อกระเจี๊ยบเหลืออยู่ จึงนำเนื้อมาพัฒนาต่อโดยกลุ่มสตรีชื่อกลุ่มจอมบึงแฮปปี้โมเดล โดยการส่งเสริมพัฒนาเชิงพื้นที่ของมหาวิทยาลัยาราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เข้ามาช่วยพัฒนา นำกลุ่มผู้ประกอบการหรือชาวบ้านที่มีฝีมือการทำอาหารนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ส่วนเนื้อกระเจี๊ยบยังมีความเข้มข้นอยู่ ได้นำมาต่อยอดทำไส้ขนมปังมีลักษณะคล้ายกับแยมสตอเบอรี่ นอกจากของหวานก็ยังมีของคาว เช่น เมนูปากหม้อ ใช้แป้งทำจากน้ำกระเจี๊ยบมาผสมจะได้รสชาติอมเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ พอทำเป็นเส้นก็จะกลายเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวกระเจี๊ยบแบบแป้งแคะแล้วมาผัดกับถั่วงอกก็กลายมาเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวกระเจี๊ยบสดปากหม้อ  หรือจะนำมาห่อเป็นปอเปี๊ยะเวียดนามแป้งสดนำมาห่อกับสลัด หรือ ปูอัด ด้วยรสชาติที่อมเปรี้ยวยังโดดเด่นของกระเจี๊ยบยังนำมาเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ด กึ่งน้ำจิ้มเวียดนาม กินกับปอเปี้ยะเวียดนามแป้งกระเจี๊ยบ หรือ ทำเป็นแป้งกุยช่ายได้อีก  ดอกกระเจี๊ยบสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลายทั้งทำขนม อาหารคาว หวาน เครื่องดื่ม ถือเป็นความมหัศจรรย์ของพืชที่ขึ้นอยู่ในท้องถิ่นที่ถูกมองข้าม  ทางไร่จึงได้หยิบยกพืชนี้ขึ้นมากลายเป็นอาชีพให้กับชาวบ้าน ทุกวันนี้มีศูนย์แปรรูปผลผลิตการเกษตรระดับชุมชน จากงานวิจัยที่ทำประสบความสำเร็จมาก จึงให้ชาวบ้านช่วยกันปลูกและรวบรวมผลผลิตเอามาแปรรูปที่ศูนย์สร้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีรายได้เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้า และมาตรฐานผลิตภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในอนาคต  ส่วนสรรพคุณของกระเจี๊ยบ นอกจากรสชาติที่เปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์แล้วกระเจี๊ยบยังมีคุณสมบัติช่วยสลายกลุ่มไขมันต่างๆ เช่น ไขมันในเส้นเลือดที่เรียกว่าคอลเลสเตอรอล ยังมีคุณสมบัติฟอก ล้างสารพิษ ขับเบา ขับปัสสาวะ คนมีปัญหาเรื่องนิ่ว กระเจี๊ยบจะไปกัดกร่อนกลุ่มหินปูนที่อยู่ในร่างกายให้คนที่มีปัญหาโรคนิ่วในกระเพาะอาหาร

สำหรับผู้ที่สนใจจะไปเที่ยวและชิม ช้อป เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เมนูอาหารต่างได้ที่ตลาดอมยิ้ม  อยู่ในวัดตลาดควาย หรือวัดวาปีสุทธาวาส  อ.จอมบึง  จ.ราชบุรี  เปิดทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ หรือ สอบถามได้ที่ประธานไร่สุขพ่วง เบอร์  089-3798950

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี