X

ตัวตึงบ้านเลือกเลือดร้อนแอบดักยิงเพื่อนข้างบ้านดับคาดแค่ไม่ชอบขี้หน้า

ราชบุรี     ในวันนี้ ( 15 มี.ค.66 ) ร.ต.อ.วัชร  พลผาสุข  ร้อยเวรสภ.โพธาราม  จ.ราชบุรี  ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตที่บริเวณถนนเข้าหมู่บ้านหุบมะกล่ำ  หมู่ 8  ต.บ้านเลือก  จึงรายงานให้ พ.ต.อ.โชติช่วง   ภาณุทัต  ผกก.สืบสวนตำรวจภูธร จ.ราชบุรี    พ.ต.ท.ธัชพล ว่องพาณิชย์ รอง ผกก.ป สภ.โพธาราม  ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน  แพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม  และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซูกิ  อากีร่า สีแดง  หมายเลขทะเบียน  3ป -5981 กทม. จอดอยู่ข้างรถพบศพเป็นชาย ทราบชื่อมาคือ นายสมศักดิ์  แจ้งประจักษ์  อายุ 42 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.7  ต.บ้านเลือก  อ.โพธาราม  สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดที่หน้าอก ใต้กกหู และคอ  มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้ารวม 6 แผล  ใกล้กันพบหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่จำนวน 1 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

        จากการสอบถามนางสุพัตรา  เหลนปก  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านม.8  ต.บ้านเลือก  ก็บอกว่าคนยิงชื่อนายป๊อก  หรือ นายพงษ์  นาคพี่น้อง  อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175  ม.8  ต.บ้านเลือก  เป็นตัวตึงในหมู่บ้าน ไม่มีใครกล้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเพราะชอบทำร้ายคนที่เดินผ่าน หรือคนที่นายป๊อกไม่ชอบหน้าก็จะเข้าไปทำร้ายโดยไม่ทราบสาเหตุ  จนทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว  เคยแจ้งตำรวจหลายครั้งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และล่าสุดก็ไปหาเรื่องชกต่อยกับคนงานในไร่ทุเรียนที่อยู่ใกล้กับจุดเกิด จนได้รับบาดเจ็บ  ซึ่งคนนงานที่เจ็บก็ได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านได้รับทราบแล้ว  และก็มาก่อเหตุในวันนี้อีกซึ่งคนตายนั้นเป็นคนดีไม่เคยมีปัญหากับใคร และทุกวันในช่วงเวลานี้ก็จะไปเอาข้าวหมูที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของญาติๆที่อยู่ปากซอย มาให้หมู ให้ไก่ที่บ้านแม่ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านมือปืน  และคาดว่ามือปืนน่าจะมาดักพอผู้ตายขับรถผ่านก็ยิงเลยโดยไม่มีสาเหตุ  และหลังจากก่อเหตุแล้วก็มีคนเห็นว่าขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า วีบรอนซ์  หมายเลขทะเบียน กม-4335 ระยอง หลบหนีไป

ด้านน้องชาย ของผู้ชายก็บอกว่า ที่ผ่านมาพี่ชายไม่เคยมีเรื่องอะไรกับมือปืน จึงไม่รู้สาเหตุที่มายิง แต่รู้ว่ามือปืนนั้นชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว จนชาวบ้านนั้นหวาดกลัวทุกคน  และอยากให้เจ้าหน้าที่ได้ช่วยติดตามจับกุมมาให้ได้เพราะถือเป็นบุคคลอันตราย

ส่วนนางหยัด แจ้งประจักษ์ แม่ของคนตายก็บอกว่า  ลูกชายคนที่ตายเป็นลูกคนที่สองในจำนวนพี่น้อง 3 คน  และไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกับคนยิง เพราะลูกชายจะไปเอาข้าวหมูมาให้ทุกวัน และบ้านก็อยู่ใกล้กัน ซึ่งก็ต่างคนต่างอยู่  ตอนที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนและมีคนวิ่งไปบอกว่าลูกชายถูกยิง  ก็รีบมาดู คาดว่าคนยิงนั้นคงยืนแอบดักรอตรงมุมกำแพง เพราะได้ยินเสียงปืนดังในบริเวณนั้น  ซึ่งเมื่อตนมาถึงที่เกิดเหตุตอนนั้นลูกยังไม่ตาย แต่มีรถจักรยานยนต์ทับอยู่ จึงรีบจับรถรถจักรยานยนต์ตั้งไว้และเข้าไปดูลูกชายแต่ก็ไม่ไหวลูกชายหมดลมไปก่อน  อยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายได้เร็ว

    ด้านชาวบ้านอีกคน  ซึ่งขอสงวนชื่อก็บอกว่า  เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว สามีของตนซึ่งทำงานอยู่ในสวนทุเรียนและขี่รถจักรยานยนต์มารดน้ำต้นทุเรียนทุกวันก็ถูกมือปืนมายืนขวางและเข้าไปชกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน  ซึ่งตนได้ไปแจ้งทางผู้ใหญ่บ้านไว้แล้ว  และหลังจากนั้นก็มาคอยตะโกนด่าอยุ่ตลอด  ก็เลยไม่ให้สามีมาทำงานอีกเลยเพราะกลัว และการที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็เชื่อว่ามือปืนนั้นน่าจะมาดักรอแฟนตนเองแต่มาพบกับคนตายก่อนจึงได้ยิงจนตายดังกล่าว

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ไปสอบถามนางจำแลง ศรีดา อายุ 55 ปี พี่สาวของมือปืนก็บอกว่า ไม่ถูกกับน้องชาย และอยู่คนละห้องกับน้องชาย  ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด  และก็ได้ยินเสียงน้องชายมาตะโกนเรียกเมียว่าเร็วๆ ซึ่งตนไม่กล้าออกมาดูเพราะกลัว  พี่น้องต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่นหมดเพราะน้องชายร้ายมาก  เวลาอารมณ์ดีก็ดี  แต่เวลาอารมณ์เสียก็จะร้ายมาก ทำร้ายเมียเป็นประจำ  ซึ่งตนบอกให้น้องสะใภ้ไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ไป  ส่วนตนเองก็เคยถูกน้องชายทำร้ายเหมือนกัน คนในซอยก็ถูกหาเรื่องไปทั่ว  ขนาดไปขายของตามนัดกับเมียตัวเองก็ไปมีเรื่องกับคนอื่นไปทั่ว

    ส่วนชาวบ้านอีกคนก็ให้ข้อมูลว่า มือปืนนั้นชอบระรานชาวบ้านไปทั่ว  ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่หลายครั้งก็ไม่มีใครมาทำอะไรเลย และพอรู้ว่ามายิงคนนี้ก็สงสารมากเพราะเขาเป็นดี  เป็นคนทำมาหากิน  ส่วนตนนั้นยังไม่เคยเจอเพราะต้องคอยหลบอยู่แต่เชื่อว่าที่เป็นอย่างนี้น่าจะมาจากฤทธิ์ยาเสพติด  ซึ่งที่ผ่านมาก็ชอบยิงปืนเป็นประจำก้อยากให้เจ้าหน้าที่ได้จับให้ได้และถ้าจับได้ก็วิสามัญไปเลยเพราะถือเป็นบุคคลอันตราย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแกะรอยของคนร้าย  จนทราบว่าได้ขับรถยนต์เก๋ง  ยี่ห้อ โตโยต้า วีบรอนซ์  หมายเลขทะเบียน กม-4335 ระยอง  หลบหนีไปในเขตจ.สุพรรณบุรี  ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจับกุม  และหากว่าผู้ต้องหานั้นต่อสู้เนื่องจากมีอาวุธปืนทางเจ้าหน้าที่ก้อาจจะต้องมาตราการขั้นเด็ดขาดด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี