ราชบุรี ในวันนี้ ( 27 มี.ค. 66 ) ผู้ปกครองนักเรียน และเด็กนักเรียน ของโรงเรียนบ้านชัชเจริญ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ 5 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งนำโดยนายโยธิน จวงเจิม สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ ซึ่งเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนบ้านชัชเจริญ ได้เดินทางมาที่โรงเรียน พร้อมกับมีป้ายข้อความ คณะกรรมการสถานศึกษาไม่ต้องการ ผอ.ที่ไม่ซื่อสัตย์ ที่นี่ไม่ต้องการ ผอ. คนนี้ และผอ.คนนี้อยู่ที่นี่พวกเราจะย้ายโรงเรียน โดยตะโกนขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนออกมาชี้แจงในกรณีที่ผู้ปกครองของเด็กและคณะกรรมการสถานศึกษาสงสัย
โดยนายโยธิน จวงเจิม สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ ก็อ้างว่า ที่มารวมตัวกันวันนี้ก็เนื่องจาก นางสุรภา โชคไพศาลธนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านชัชเจริญ ทำเรื่องที่ไม่โปร่งใส ซึ่งมีทั้งเรื่องโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน ซึ่งให้ครูไปแจ้งกับชาวบ้านว่าจะทำอาหารกลางวันให้กับเด็กเอง ที่ผ่านมาก็ใช้ชื่อพี่สาวประมูลโครงการอาหารกลางวัน แต่จ้างแม่ครัวมาทำรายวันแล้วโอนเงินค่าอาหารเข้าบัญชี ผอ. เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง เด็กกินไม่อิ่ม ให้อาหารน้อย แล้วยังมีเรื่องการพูดจาที่ไม่สุภาพกับเด็กนักเรียนและครูในโรงเรียน และเรื่องการติดตั้งไฟส่องสว่างทางเข้าโรงเรียน ซึ่งไม่ได้แจ้งให้กับทางคณะกรรมการสถานศึกษา ได้รับทราบว่าจะมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าส่องสว่าง และติดตั้งไฟในโรงอาหารซึ่งอาจจะมีราคาที่แพงเกินไป และยังไปหักเงินเดือนของครูอัตราจ้าง และจะให้ครูอัตราจ้างออกอีก ซึ่งทางผู้ปกครองนั้นยอมไม่ได้ และขอให้ผอ.ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ส่วนเรื่องของโครงการกลางวันนั้นตอนนี้ปิดเทอมแล้วแต่ทาง ผอ.ก็ยังทำเรื่องเบิกค่าอาหารกลางวันอีก จึงเชื่อว่าน่าจะไม่มีความโปร่งใส
ด้านนางฐิติมา เอื้อเฟื้อ อดีตแม่ครัวของโรงเรียน ก็เล่าให้ฟังว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้มาเป็นแม่ครัวได้ค่าแรงวันละ 250 บาท โดยมาทำกับน้องสาว 2 คน และเพิ่งจะถูก ผอ.ให้ออกเมื่อไม่นานมานี้ โดย ผอ.ให้เหตุผลว่า ที่เด็กกินไม่อิ่มเพราะต้องนำค่าอาหารของเด็กมาจ้างแม่ครัว และในวันที่มาจ้าง ผอ.ก็เป็นคนให้ค่าแรงเอง ซึ่งเราไม่ได้มีการตั้งราคา และทุกครั้งก็จะตักอาหารให้เด็กกินให้อิ่มและจะสอบถามเรื่องรสชาติอาหารกับเด็กตลอด แต่ที่โรงเรียนนี้ ผอ.ไม่ให้ใช้น้ำปลา แต่ให้ใช้เกลือแทน ส่วนผงชูรสก็จะกำหนดให้ ซึ่งเวลาที่ทำก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงเด็กก็จะไม่มีน้ำปลามีแต่น้ำส้มพริกดองกับน้ำตาล ส่วนเนื้อหมู เนื้อไก่ก็จะซื้อแค่อาทิตย์ละครั้งแล้วแช่เอาไว้ เวลาจะทำอาหารก็จะต้องแบ่งออกมาแล้วนำไปแช่น้ำให้หายแข็ง ก่อนจะนำไปทำอาหาร ทำให้เด็กไม่มีโอกาสได้กินของสด ซึ่งสามารถที่จะไปสอบถามแม่ครัวคนอื่นๆ ที่เคยมาทำอาหารให้กับทางโรงเรียนได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ไม่ได้ใส่ร้าย ผอ.
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอพูดคุยกับ นางสุรภา โชคไพศาลธนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านชัชเจริญ ก็บอกว่า สิ่งที่ทำไปทั้งหมดนั้น ทำเพื่อโรงเรียนและทำตามระเบียบทุกอย่าง ทั้งเรื่องของไฟส่องสว่างก็เป็นแผนปฎิบัติการอยู่แล้ว และประกอบกับทางโรงเรียนจะต้องต้อนรับแขกที่จะมาเข้าพักในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน จึงได้ติดตั้งไฟส่องสว่างโดยมีการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้อง ส่วนเรื่องอาหารกลางวันนั้นแม่ครัวคนเก่าลาออก และทางโรงเรียนยังหาแม่ครัวไม่ได้ ทางผอ.กับครูก็ต้องช่วยกันทำไปก่อน ต่อมาก็มีจ้างเหมาแม่ครัวมาแต่เมื่อสอบถามเรื่องรสชาติอาหารจากเด็กก็บอกว่าไม่อร่อย ทางแม่ครัวก็ลาออกไปอีกทำให้ ทางผอ.กับครูและภารโรงในโรงเรียนต้องช่วยกันทำอาหารให้เด็กเพราะหาแม่ครัวไม่ทัน ต่อมาก็ได้แม่ครัวคนใหม่มาสองคน จ้างคนละ 250 บาท อาทิตย์ละ 2500 บาท แต่ของหายไปเรื่อยๆ จนทำให้ครูที่ดูแลเรื่องนี้มาบ่นให้ฟัง ซึ่งมาจับได้ในช่วงที่ไปซื้อของมาจากห้างแมคโคร เพราะซื้อไข่มา 5 แผง โดยลงในใบเสร็จของห้าง แต่กลับไม่มีไข่ จึงทำให้รู้ว่ามีของหาย ส่วนของที่ซื้อมานั้นบางอย่างก็สามารถซื้อมาแช่แข็งเก็บไว้ได้ แต่บางอย่างก็ต้องซื้อวันต่อวัน ส่วนที่บอกว่าปิดเทอมก็ยังมีการจัดทำโครงการอาหารกลางวันอยู่นั้น ก็ขอบอกว่าโรงเรียนยังไม่ได้ปิดนะคะ จะปิดในวันที่ 31 มี.ค.66 ซึ่งในช่วงนี้เด็กยังต้องมาโรงเรียนเราก็จะต้องมีอาหารให้เด็กได้กิน ส่วนที่ใช้เกลือแทนน้ำปลานั้น ยอมรับว่าเกลือนั้นมาจากธรรมชาติ มีไอโอดีนและมีประโยชน์กว่าน้ำปลา ซึ่งก็มีรสชาติเหมือนกันและจะประหยัดมากกว่าการใช้น้ำปลาและกลิ่นก็ไม่รบกวนใคร ส่วนซอสปรุงรสอย่างอื่นนั้นมีทุกอย่าง แต่ในส่วนของผงปรุงรสนั้นทางโรงเรียนต้องตักแบ่งใส่ถุงให้แม่ครัวใช้ในแต่ละวัน เพราะที่ผ่านมานั้นแม่ครัวใส่เยอะเกินไปซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงต้องจำกัดปริมาณในการใส่ จึงทำให้แม่ครัวไม่พอใจ และที่ต้องให้แม่ครัวออกเพราะเงินที่จ้างแม่ครัวนั้นเดิมเคยจ้าง 1 คน วันละ 300 บาท อาทิตย์ละ 1500 บาท แต่ต้องมาจ้างแม่ครัว 2 คน ซึ่งจ้างวันละ 250 บาท รวมเป็นเงินวันละ 500 บาท อาทิตย์ละ 2500 บาท ทำให้ต้องเจียดเงินค่าอาหารเด็กมาจ่าย จึงได้เชิญแม่ครัวออกไป เพราะไม่สนองนโยบาย ผอ.ที่ผ่านมาก็พยายามที่จะไปหาเด็กในชุมชน มาเรียนจนทำให้ตอนนี้กลายเป็นโรงเรียนขนาดกลาง เพราะมีเด็กเกิน 120 คน แม้ว่าตอนนี้ผู้ปกครองบางส่วนอาจจะอยากให้ ผอ. ย้ายออกไปจากโรงเรียนนี้ ก็บอกว่าจะย้ายออกไปก็ต่อเมื่อ ผอ. มีความผิดจริง และขอยืนยันว่ามีเจตนารมณ์ที่ทำให้โรงเรียนแห่งนี้แข็งแกร่ง และจะไม่ปล่อยให้โรงเรียนนี้เป็นเครื่องมือของเกมส์ใดๆ ทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำอาจจะมีผิดระเบียบบ้างแต่ขอยืนยันว่าไม่ได้ทุจริต
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: