ราชบุรี ในวันนี้ ( 12 พ.ค. 66) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดราชบุรี พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมของตำรวจภูธรภาค 7 และ ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ภายใต้แผนยุทธการ “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล” ก่อนวันเลือกตั้งที่จะมาถึง14พฤษภาคม 2566 โดยมีพลตำรวจตรี วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรทั้ง 16 สถานี มาร่วมปล่อยแถวในครั้งนี้
ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกัน และป้องปราม อาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นในห้วงดังกล่าวซึ่งเค้าว่าจะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง รวมถึงเป็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอดจน รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน การจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย และจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิดเครื่องกระสุนปืนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและบุคคลตามหมายจับ โดยมีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทาง หรือสถานที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม เพื่อสกัดกั้นตรวจค้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย จับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม ที่อาจนำไปใช้ในการกระทำความผิด ต่อไป
ด้านพลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้เตรียมการเต็มรูปแบบ ทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 ได้ออกแผนการดูแลหน่วยเลือกตั้ง รวมไปถึงชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดสืบสวนหาข่าว และขณะนี้ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เข้ามาทุกจังหวัด ชุดปฏิบัติการอินทรีย์ 7 เข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนกับผู้ที่เข้ามาฉวยโอกาสในวันเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย มีการสืบค้นหาข่าวเป้าหมายโดยเฉพาะที่เข้ามาสร้างสถานการหรือบุคคลที่มีหมายจับรวมไปถึงกลุ่มมือปืนรับจ้าง ซึ่งทางผบ.ตร.เป็นห่วงว่าหลังจากเลือกตั้งเสร็จแล้วอาจจะมีสถานการณ์ขึ้น ซึ่งเราก็จะคุมพื้นที่อย่างต่อเนื่องและยืนยันว่าขอให้เชื่อมั่นมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกฝ่าย ถ้ามีเบาะแส กลุ่มมือปืน หรือผู้มีอิทธิพล แจ้งสถานการณ์ได้ทุกสถานีตำรวจตอนนี้มีความพร้อมเต็มร้อย
ส่วนวประเด็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกล็อกคอและแย่งปืนนั้นได้สั่งให้รองผู้บัญชาการเข้ามาดูแลอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย เพราะได้กำชับแล้วว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเป็นกลางและไม่กลั่นแกล้งใคร และต้องดูแลความปลอดภัยกับผู้สมัครทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน แต่การเข้าปฏิบัติหน้าที่นั้นต้องขอความร่วมมือกับประชาชน เมื่อได้รับการแจ้งมาก็ต้องนำกำลังเข้าไปพิสูจน์ตรวจสอบถ้าพบการกระทำความผิดตามกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
การเมืองในตอนนี้ไม่มีอะไรกดดันเพียงแต่ขอให้สู้กันตามกติกาเพียงแต่เราจะดูแลความปลอดภัยให้กับทุกท่านอย่างเสมอภาค หากคิดว่าไม่มีความปลอดภัยให้ร้องขอมา และถ้าหากมีเหตุผลเพียงพอก็จะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ และไม่มีการเลือกปฏิบัติในรอบนี้ทุกพื้นที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการกดดัน ไม่มีอะไรที่หนักใจเพราะเราปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นตอนและมีกำลังที่พร้อมปฏิบัติทันทีหากมีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ตอนนี้ที่ทางอดีตส.ส.ปารีณาได้พูดว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคามตนยืนยันได้ว่าไม่มีหากพบว่ามีให้แจ้งมายังผู้การฯราชบุรี หรือผู้กำกับ แต่ถ้าไม่มั่นใจก็สามารถแจ้งมาที่ภาค 7 ของเราได้ ถ้ามีกาiคุกคามจริงเราจะตรวจสอบทั้งหมดหากมีพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินการทางกฎหมายและไม่มีการเลือกปฏิบัติ
