ราชบุรี ในวันนี้ ( 18 พ.ค. 66) ได้มีพิธีบวงสรวงไหว้ ครอบครูหนังใหญ่ โดยนายสมบัติ แก้วสุจริต ครูผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากร ซึ่งมีศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศมาเข้าร่วมในพิธีครอบครูหนังใหญ่กันอย่างคึกคัก ภายในอาคารแสดงหนังใหญ่วัดขนอน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ก่อนจะมีพิธีการแสดงหนังใหญ่ให้ผู้ที่เข้ามาร่วมในพิธีครอบครูนั้นได้ชมศิลปะการแสดงอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งได้มีการเตรียมเก็บข้อมูลในการที่จะเสนอให้หนังใหญ่ขึ้นทะเบียนมรดกโลก หรือขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมกับทางยูเนสโก
ด้านพระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน ก็ให้ข้อมูลว่า ทางวัดขนอนได้รับทุนวิจัยจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมให้มีการจัดเก็บข้อมูลเรื่องของหนังใหญ่ในประเทศไทยทั้งหมด เพื่อจะนำไปขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หรือมรดกโลก ซึ่งหนังใหญ่วัดขนอนนั้นได้รับรางวัลจากองค์ยูเนสโกมาเมื่อปี พ.ศ.2550 ซึ่งจะให้กับทางชุมชนที่มีมรดกทางด้านวัฒนธรรม ซึ่งเป็นแค่ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก แต่ขณะนี้เรากำลังเก็บข้อมูลหนังใหญ่ทั้งประเทศ good practice หรือการปฎิบัติที่ดีที่สุด เพื่อจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางด้านวัฒนธรรม และทางวัดขนอนก็ได้จัดพื้นที่เป็นกรณีศึกษาและเก็บข้อมูลเพื่อเสนอต่อยูเนสโกต่อไป ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีหนังใหญ่อยู่ 5 แห่ง มีมรสพหลวง ของกรมศิลปากร หนังใหญ่วัดขนอน หนังใหญ่วัดบ้านดอนจ.ระยอง หนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์ จ.สิงห์บุรี และหนังใหญ่วัดพลับพลาไชย จ.เพชรบุรี ซึ่งทั้ง 5 แห่งนี้สามารถจัดการแสดงให้ชมได้ ที่ผ่านมาเคยมีการเก็บข้อมูลเป็นกระดาษ เป็นรูปเล่มไปแล้ว ซึ่งจะเป็นประวัติความเป็นมา และเรื่องราวต่างๆ แต่ขณะกำลังเก็บข้อมูลในเรื่องของวิธีการแสดง ซึ่งเป็นการแสดงเปรียบเทียบทางวัณกรรมของแต่ละสถานที่ว่ามีวิธีการเล่นอย่างไร มีพิธีกรรมอย่างไร โดยเก็บเป็นรูปการณ์แสดงในแบบวีดีโอ นอกจากการเก็บข้อมูลในเรื่องของการแสดงแล้ว ยังมีเรื่องของพิธีกรรม ซึ่งก็คือการไหว้ ครอบครูหนังใหญ่ ซึ่งมีการประกอบพิธีในช่วงเช้า และทางวัดก็ได้รับงบประมาณและทุนวิจัยจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีหนังใหญ่ทั้งหมดมาร่วมแสดงในวันที่ 18-19 พ.ค. ซึ่งในวันที่ 18 พ.ค. นั้นจะเป็นการแสดงหนังใหญ่ของ กรมศิลปากร หรือหนังหลวง การแสดงของ หนังใหญ่วัดบ้านดอนจ.ระยอง และหนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์ จ.สิงห์บุรี ส่วนในวันที่ 19 พ.ค. จะเป็นการแสดงของ หนังใหญ่วัดขนอน และหนังใหญ่เขมร หรือกัมพูชา ซึ่งหนังใหญ่ของกัมพูชา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2552 ในระดับ safeguard คือการปกป้องอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะสูญหายไป ซึ่งอาตมาก็เชื่อว่าหนังใหญ่เขมรนั้นเกิดขึ้นมาก่อน จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก่อนเรา แต่ของเราจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในระดับ good practice คือการปฎิบัติและการถ่ายทอดที่ดีที่สุด ซึ่งการเก็บข้อมูลในการแสดงแต่ละสถานที่ เช่นวัดขนอนจะแสดงตอนยกรบ วัดบ้านดอนจะแสดงตอน บุตรรบ และหนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์ จะแสดงตอนศึกทศกัณฑ์ครั้งที่ 5 โดยให้เป็นการแสดงแต่ละที่ไป
