ราชบุรี เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 22 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางพเยาว์ แก้วมุกดา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 1 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ว่าบ้านถูกพายุพัดจนพังเสียหายทั้งหลัง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง แต่กระเบื้องหลังคานั้นได้ถูกแรงลมพายุพัดหายไปจนทำให้หลังคาเป็นช่องโหว่ทั้งหลัง นอกจากนี้ยังมีเศษกระเบื้องแตกหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้นบ้าน ส่วนหลังคาสังกะสีที่ต่อเติมไว้หลังบ้านก็ถูกลมพายุหอบมาตกที่หน้าบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้ารวมทั้งที่นอนและเสื้อผ้าก็เปียกฝนทั้งหมด ท่อนไม้ที่ใช้ทำหลังคาหลังบ้านก็ปลิวตกทะลุหลังคาบ้านเข้ามาตรงบริเวณเตียงนอน นอกจากนี้สังกะสีบางส่วนก็ปลิวไปตกที่กลางไร่อ้อย ซึ่งพรุ่งนี้เช้าจะต้องตามไปเก็บกลับมา ส่วนต้นไม้ใหญ่ก็ก็หักโค่นทับคอกวัวด้วย
จากการสอบถามนางพเยาว์ แก้วมุกดา เจ้าของบ้านก็เล่าให้ฟังว่า ช่วงที่เกิดฝนตกหนักและมีลมพายุพัดแรงนั้นไม่มีใครอยู่ที่บ้านเพราะออกไปรับจ้างตัดอ้อย ซึ่งที่ไร่อ้อยนั้นก็มีทั้งลมทั้งฝน จนทำให้กลับบ้านไม่ได้ ต้องรอจนฝนหายจึงกลับมา พอกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็นก็แทบเป็นลมเพราะเห็นหลังคาบ้านถูกลมพายุพัดจนหลังคากระเบื้องแตกปลิวไปหาย ข้าวของในบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งตั้งแต่เกิดมายังไม่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้เลย น่ากลัวมาก หลังจากนี้ไปก็ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาซ่อมบ้าน เพราะบ้านเพิ่งจะปลูกได้ไม่นาน ส่วนคืนนี้ต้องหลบมานอนที่หน้าบ้านซึ่งยังพอมีกระเบื้องที่ไม่แตกพอให้หลบฝนได้ แต่ถ้าฝนตกหนักก็คงจะอยู่ไม่ได้ ก็อยากให้มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือบ้าง ซึ่งในหมู่ 1 นี้มีบ้านของเพื่อนอีกหลายคนที่ถูกลมพายุพัดบ้านเสียหายอีกเกือบ 10 หลังคาเรือน แต่ที่บ้านของตนเองนั้นน่าจะเสียหายมากสุด
