ราชบุรี ในวันนี้ ( 29 มิ.ย. 66) ตัวแทนชาวบ้านในหมู่ 1 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี กว่า 50 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการของโรงงาน แวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด มากว่า 20 ปี ได้เดินทางมายื่นหนังสือกับ ดร.รวมทรัพย์ คะเนะดะ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 เรื่องขอให้มีการตรวจสอบสภาพภายในโรงงาน แวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด หลังเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ ส่งผลให้เกิดมลพิษ ทั้งเรื่องของควันพิษที่เผาไหม้ถังสารเคมี ซึ่งเป็นกากขยะอุตสาหกรรมที่โรงงานรับมาจากโรงงานต่างๆมากำจัดภายในโรงงาน เรื่องของกลิ่นเหม็น การปนเปื้อนของสารเคมีต่างๆที่ซึมลงใต้ดินบางส่วนก็ไหลลงสู่ลำห้วยสาธารณะ โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งให้โรงงานได้ทำการขนย้ายกากขยะอุตสาหกรรมออกให้เร็วที่สุด และใบอนุญาติประกอบกิจการของโรงงานนั้นก็หมดอายุแล้ว แต่ขณะนี้ผ่านมา 1 ปี พบว่ายังไม่มีความคืบหน้าใดๆในการจัดการ ประกอบช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าฝนชาวบ้านจึงเกรงว่าน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีจะนั้นได้ไหลลงสู่ลำห้วยพร้อมกับน้ำฝนที่ชะล้างลงมา ชาวบ้านจึงได้มายื่นหนังสือเพื่อขอให้หน่วยงาน ได้ดำเนินการตรวจสอบสภาพภายในโรงงานว่าจุดที่มีปัญหา เช่น บ่อฝังกลบขยะ ที่เกิดการรั่วไหลของน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีนั้นมีการดำเนินการแก้ไขและป้องกันแล้วหรือไม่ บ่อรับน้ำชะกากขยะอุตสาหกรรมที่เกิดการแตกและรั่วมีการดำเนินการแก้ไขและป้องกันแล้วหรือไม่ จุดบริเวณที่เกิดไฟไหม้นั้นมีการขนย้ายดินที่ปนเปื้อนสารเคมีออกไปกำจัดแล้วหรือไม่ หากยังไม่หมดแล้วมีการป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายสารเคมีในพื้นดินอย่างไร และขอให้มีการตรวจสอบแต่ละโกดังที่จัดเก็บถังสารเคมีนั้นมีการรั่วซึมของสารเคมีลงสู่พื้นดินหรือไม่ และทางโรงงานมีการป้องกันอย่างไร ซึ่งข้อเรียกร้องที่ชาวบ้านมายื่นวันนี้ได้ขอให้หน่วยงานได้มีการดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อลดกระทบที่จะเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝนที่น้ำปนเปื้อนสารเคมีนั้นจะไหลกระจายไปในพื้นที่อื่นๆ
ซึ่งนายธนู งามยิ่งยวด ประธานเครือข่ายคนรักษ์น้ำ จ.ราชบุรี และเป็นตัวแทนชาวบ้านที่ยื่นหนังสือ ก็บอกว่า วันนี้มายื่นหนังสือเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านที่เกิดจากโรงงานแวกกาเบ็จ เนื่องจากไฟไหม้มาแล้ว 1 ปี ก็ยังไม่ได้มีการจัดการอะไรที่จะไม่ให้ชาวบ้านเกิดความวิตกจากการใช้น้ำในลำห้วยเลย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนั้นอาจจะมีการชะล้างสารเคมีที่ยังไม่ได้มีการขนออกหรือที่อยู่กลางแจ้งหรือยู่ในโรงงานที่มันรั่วไหลอยู่พากันไหลลงสู่ลำห้วยทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบอีก ซึ่งเดิมก็ได้รับผลกระทบมาจากโรงงานนี้มากว่า 20 ปี แล้ว และที่มายื่นหนังสือก็เพื่อต้องการให้ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค ได้ลงไปตรวจสอบหรือให้หน่วยงานได้เข้าไปติดตามดูให้กับชาวบ้าน ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดไฟไหม้ทางหน่วยงานราชการก็จะมีการประชุมชี้แจงถึงผลการดำเนินงานให้ชาวบ้านได้รับรู้ทุกเดือน แต่มาช่วงหลังหลายเดือนแล้วยังไม่การประชุมชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับรู้เลย ทั้งที่ชาวบ้านก็ได้รับรู้ว่ามีการขอ งบประมาณในการมาจัดการกากขยะในโรงงานแห่งนี้ประมาณ 60 ล้านบาท มาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ทำให้ชาวบ้านกังวลเป็นอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านก็ไม่เข้าใจว่าทำต้องให้ชาวบ้านมายื่นหนังสือเพื่อขอให้หน่วยงานมาเปิดประชุมชี้แจงผลการดำเนินงาน ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธาน แต่กลับนิ่งเงียบทั้งที่ผู้ว่าฯนั้นเป็นพ่อเมือง จึงทำให้ชาวบ้านต้องออกมาในวันนี้ ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมาชาวบ้านยื่นหนังสือร้องเรียนจนต้องนำรถปิกอัพไปบรรทุกเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านในหมู่ 1 ตำบลน้ำพุ เชื่อว่าน่าจะเต็มกระบะรถได้ และผู้ว่าฯที่เคยรับเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านในตำบลน้ำพุน่าจะมากกว่า 10 คนแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: