X

ฝ่ายปกครองจับ 2 สาวลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมของกลางมูลค่าหลายแสนบาท

ราชบุรี    ในวันนี้( 7 ส.ค. 66 )  นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ร่วมกับนายไกรธวัช   ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี   นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอเมืองราชบุรี   พ.ต.อ. ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองราชบุรี   นายจำนงค์   จันทร์วงศ์  ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง   และนายยศพล  ชัยบุลวัชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง   พร้อมด้วยสมาชิก อส.  ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งกลางใจเมืองราชบุรี   พบว่ามีร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า  จึงได้เข้าทำการล่อซื้อพร้อมขอตรวจค้นพบพร้อมของกลางตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 168 เครื่อง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน  890 ชิ้น  คอยล์สำหรับใส่ตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 89 อัน  พร้อมทั้งตรวจยึดรถปิกอัพ  ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน บพ  69 เพชรบุรี  ซึ่งพบของกลางอยู่ในรถด้วย   ใบรายการจำหน่ายสินค้าจำนวน 1 ใบ  รวมมูลค่าของกลางหลายแสนบาท  และได้คนขายเป็นผู้หญิง 2 คน  เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบสวนถึงแหล่งที่มาของบุหรี่ไฟฟ้าที่นำมาจำหน่าย

         สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองนักเรียนว่า มีร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว  เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการล่อซื้อ  จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าร้านดังกล่าวมีการจำหน่ายบุหรี่และอุปกรณ์จำนวนมากวางอยู่ มีลักษณะรูปทรงสวยงาม บรรจุใส่ซองพลาสติกสีสันสดใส ทั้งรูปผลไม้สตอร์เบอรี่ องุ่น เป็นแท่งราคาอันละ 250 บาท หุ่นรูปตุ๊กตา ราคาจำหน่ายตัวละ 350 บาท บางชิ้น มีราคาตั้งแต่ 120 บาทไปจนถึงเกือบ 2,000 บาท   โดยคนขายทั้งสองคนยอมรับว่ามีรายได้จากการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าวันละ 10,000 บาทต่อวัน  เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวว่า เป็นผู้ขายหรือจัดหาด้วยประการใด ๆ หรือ เสนอ หรือ ชักชวนให้มีการขาย ให้บริการหรือจัดหาด้วยประการใดๆ ซึ่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า หรือ น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าโดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค  เป็นผู้นำเข้าซึ่งสินค้าต้องห้าม มาตรา 5 ( 1) แห่ง พรบ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.  2522  ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้าหรือ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.  2557  ฝ่าฝืนพรบ.ศุลการ พ.ศ.  2560  มาตรา 246  ซื้อ รับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นความผิด ตามมาตรา  242

           ด้านนายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอเมืองราชบุรี   เปิดเผยว่า สำหรับร้านนี้เคยถูกจับกุมมาหลายครั้งแล้วมีความผิดหลายเรื่อง หากรวมมูลค่าของกลางที่พบนั้นน่าจะมากกว่า 2 แสนบาท ซึ่งจะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี  หรือ ปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้าที่นำเข้า ส่งออก  ถึงต้องนำสินค้าเหล่านี้ไปให้ทางศุลกากรตีราคาก่อน เมื่อศุลกากรประเมินราคาเสร็จแล้วก็จะเป็นค่าปรับ 5 เท่า เช่น ราคา 1 แสน ก็จะปรับ 5 แสนบาท โดยจับกุมมาครั้งที่ 3 แล้ว เจ้าของก็เป็นคนเดิม  แต่คนที่มาขายนั้นก็จะสับเปลี่ยนกัน  ครั้งแรกที่จับนั้นคนขายเป็นผู้ชาย  ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เป็นผู้หญิง  2 คนนี้ ที่จับกุมได้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี