ชาวบ้านร้องขอให้ปิดโรงงานร่อนทราย ทำให้เกิดฝุ่นละอองถูกสั่งปิดก็ยังทำต่อ

ราชบุรี   ในวันนี้ ( 11 ส.ค. 66) ได้มีชาวบ้านกว่า 100 คน ในหมู่ 8  ต.ดอนกระเบื้อง  อ.บ้านโป่ง  จ.ราชบุรี  เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าโรงงานร่อนทราย เลขที่ 174  หมู่ 8 ต.ดอนกระเบื้อง  เพื่อให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งปิดโรงงานแห่งนี้  หลังได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองที่เกิดจากการร่อนทรายแล้วทำให้ปลิวไปทั่วบริเวณ  ซึ่งชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง อบต.ดอนกระเบื้องตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาและทาง อบต.ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า โรงงานร่อนทรายดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อชุมชนจริง และโรงงานก็ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ  จึงได้สั่งให้หยุดประกอบกิจการและให้มาทำเรื่องขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพก่อน พร้อมทั้งดำเนินการปรับค่าเสียหายเป็นเงิน 1,000 บาท  ไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา   แต่พบว่าทางเจ้าของโรงงานยังไม่ยอมหยุดการดำเนินกิจการ  และมีการสร้างผลกระทบกับชุมชนเรื่อยมาจนทำให้ชาวบ้านต้องมารวมตัวเรียกร้องขอให้หน่วยงานได้สั่งปิดกิจการอย่างเด็ดขาดในวันนี้  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านโป่ง  มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย

   ต่อมานายธนาคม  ทวีไกรกุล   นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนกระเบื้องพร้อมกับคณะผู้บริหารได้เดินทางมาพบกับชาวบ้านพร้อมกับหนังสือคำสั่งขององค์การบริหารส่วนตำบลดอนกระเบื้อง  เรื่องที่ทางอบต.สั่งให้หยุดดำเนินการกิจการทันทีเป็นการชั่วคราวไปแล้ว  แต่เมื่อพบว่ายังมีการลักลอบดำเนินกิจการอยู่ ทางนายธนาคม  ทวีไกรกุล   นายกอบต.ดอนกระเบื้อง  ก็บอกว่าจะต้องส่งเรื่องนี้ให้กับทางอัยการจังหวัดราชบุรี เป็นผู้สั่งฟ้อง เพราะทางอบต.ได้เคยไปแจ้งความไว้แล้วที่สภ.บ้านโป่ง แต่ทางผู้ประกอบการยังฝ่าฝืนก็จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป

   ด้านนางละเอียด  กันแฮม  อายุ 66 ปี ชาวบ้านในหมู่ 8 ที่อยู่ใกล้กับโรงงานก็บอกว่า ตั้งแต่มีโรงงานมาตั้งที่บ้านไม่สามารถทำกับข้าวกินได้เลย  เนื่องจากฝุ่นละอองที่เกิดจาการร้อนทรายนั้นจะปลิวไปทั่ว ลงในกับข้าว เกาะตามบ้านพื้นบ้าน รวมทั้งปลิวไปจับตามเสื้อผ้าที่ตากไว้  เวลานำมาใส่ก็จะเกิดอาการคัน  นอกจากนี้เวลาหายใจจะรู้สึกแสบจมูก  ตามพื้นบ้านจะมีฝุ่นเกาะเต็มกวาดมารวมกันได้เป็นกอง

       ส่วนชาวบ้านอีกคนที่อยู่ใกล้กับตัวโรงงานก็บอกว่า ฝุ่นจากทรายปลิวฟุ้งไปทั่ว อยู่บ้านแทบไม่ได้  เคยแจ้งทางโรงงานไปแล้ว  ทางเจ้าของโรงงานก็นำไข่ไก่ไปให้  แต่ตนไม่รับ  เพราะไม่อยากได้ไข่ไก่แต่อยากให้หยุดกิจการเพราะถ้าหยุดร่อนฝุ่นก็จะไม่มี

     ต่อมานายชูศักดิ์  ฟักประไพ  เจ้าของโรงงานร่อนทรายเจ้าปัญหา  ได้ออกมาพบกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่บริเวณทางเข้าโรงงาน  พร้อมกับให้ชาวบ้านเข้าไปตรวจสอบด้านในโรงงาน  และยอมรับผิดว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน  รวมทั้งยังไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการทาง อบต.ดอนกระเบื้อง  และนายชูศักดิ์ยังอ้างว่า เนื่องจากมีภาระหนี้สินจำนวนมาก  จึงอยากจะทำกิจการนี้เพื่อหารายได้มาใช้หนี้  และไม่คิดว่าจะมีผลกระทบกับชุมชนมากขนาดนี้  และหลังจากนี้ไปก็ยินดีที่จะหยุดประกอบกิจการพร้อมกับจะหาแนวทางป้องกันฝุ่นละอองที่เกิดจากการร่อนทรายไม่ให้ปลิวออกไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน  ซึ่งจะขอเวลาในการปรับปรุงเป็นเวลา 1 เดือน  โดยจะทำการนำผ้ามาขึงให้สูงขึ้นจากเดิม และสร้างอาคารที่ใช้สำหรับร่อนทรายให้มิดชิดกว่านี้  และจะออกไปขอทำประชาคมโดยขอความคิดเห็นจากชาวบ้านหลังจากที่มีการปรับปรุงพื้นที่และให้ชาวบ้านมาตรวจสอบว่าไม่มีผลกระทบแล้ว  ซึ่งชาวบ้านที่มารวมตัวในวันนี้ก็ยินดีที่จะให้มีการปรับปรุงเพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่ร่วมกับชุมชนได้โดยไม่สร้างมลพิษให้

   สำหรับทรายละเอียดที่ทางโรงงานนำมาร่อนนั้นจะถูกส่งไปขายให้กับทางโรงงานที่ผลิตปูนซีเมนต์เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมในการก่อสร้าง หรือเป็นส่วนผสมในเครื่องปั้นดินเผาด้วย   แต่ในช่วงที่มีการร่อนทรายก็จะเกิดฝุ่นละอองจำนวนมาก  เนื่องทรายที่ร่อนแล้วเนื้อทรายจะป่น เนียนละเอียดคล้ายกับได้ฝุ่นแป้ง จึงทำให้เกิดผลกระทบดังกล่าว จนชาวบ้านต้องมาร้องเรียนหน่วยงาน