ราชบุรี ในวันนี้ ( 26 ส.ค.66 ) พ.ต.ท.อุดม กำเนิด สารวัตรเวรสภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าชิงทรัพย์ชาวบ้าน เหตุเกิดที่“อาศรม ปู่โต”ใกล้ศาลาอเนกประสงค์ ริมแม่น้ำแม่กลอง หมู่ 16 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ พ.ต.อ.นฤดม มารศรี รอง ผบก.ภ.จ.ราชบุรี รรท.ผกก.สภ.บ้านโป่ง พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ บุญมี รรท.สว.สส.สภ.บ้านโป่ง ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสายตรวจตำบลท่าผา ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.ระจิตร ทวีศักดิ์สิงห์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 16 ต.ท่าผา นั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก นอกจากนี้ยังพบว่าที่บริเวณหน้าผากเหนือคิ้วและใต้ตาขวา มีบาดแผล ที่ลำคอด้านขวา มีร่องรอยถูกทำร้ายจนเขียวช้ำ
โดยน.ส.ระจิตร ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ทุกวันหลังจากทำภารกิจภายในบ้านเสร็จ ตนก็จะออกจากบ้าน เดินทางมาที่ อาศรม ปู่โต (ซึ่งเป็นรูปปั้นคนแก่ถือไม้เท้า) ที่ชาวบ้านในระแวกนั้นเคารพนับถือ เพื่อช่วยทำความสะอาดปัดกวาดภายในอาศรมแ ทำแบบนี้แทบทุกวัน ทำมาปีกว่าแล้ว ซึ่งวันนี้ก็เช่นกันหลังจากทำความสะอาดเสร็จ ตนก็ขึ้นไปนั่งไหว้ ปู่โต เพื่อลากลับบ้านพัก ขณะนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย เดินเข้ามา ร้องเสียงดังว่า เฮ้ยๆๆ ตนกำลังนั่งไหว้และหันหลังให้ คิดว่าคงเป็นคนรู้จัก จึงไม่ได้หันกลับไปดู คนร้ายได้เดินตรงเข้ามา แล้วใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณคอด้านขวาตน จนร่างล้มลงนอนหงาย คนร้ายได้ตรงเข้ามาใช้มือต่อย เข้าที่แก้มและเหนือจมูกอีกหลายครั้ง จากนั้นคนร้ายได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ที่สวมอยู่ โดยคนร้ายได้สร้อยทอง ไปเพียงครึ่งเส้นพร้อมพระหลวงปู่ทวด แล้วหันมากระชากกระเป๋าสะพาย ซึ่งภายในมีเงินร้อยกว่าบาทและโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง ก่อนจะหลบหนีไป หลังคนร้ายหลบหนีไปแล้ว ตนได้พาร่างที่สะบักสะบอม เดินไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้ๆ แถวนั้น เพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองท่าผา ที่ติดตั้งอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นชายอายุ 25-30 ปี สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีน้ำตาลอ่อน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมแมสก์สีดำปิดบังใบหน้า ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซูเมอร์ X สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำแม่กลอง มุ่งหน้าบ้าน 15 ไร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความพยายามเร่งแกะรอยของคนร้าย พร้อมกับเข้าตรวจสอบที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ หมู่ 19 ต.ท่าผา เพื่อสอบถามว่ามีใครนำสร้อยคอทองคำครึ่งเส้น มาขายให้กับทางร้านบ้างหรือไม่ ซึ่งทางร้านทองแจ้งว่า เมื่อช่วงประมาณเวลา 11.00 น. ได้มีชายวัยรุ่น 2 คน นำสร้อยคอทองคำครึ่งเส้น มาขายให้กับทางร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบ พบว่าเป็นทองครึ่งเส้นที่คนร้ายก่อเหตุมา และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านทอง ก็พบว่ารถจักรยานยนต์เป็นคันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ออกสืบสวนหาข้องมูลของคนร้ายจนทราบว่าคนร้ายนั้นคือ นายสมเกียรติ พลอยสว่าง หรือเทป อายุ 27 ปี และ นายจิรวัฒน์ ว่องไวอมรเวช หรือโอ อายุ 22 ปี เป็นชาว ต.ท่าผา ขณะนี้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 17 ต.ท่าผา เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปทำการจับกุมตัวทั้ง 2 ไว้ได้ พร้อมของกลางเงินที่เพิ่งจะขายทอง กระเป๋าสะพายของ น.ส.ระจิตร และรถจักรยานยนต์ คันใช้เป็นพานะตรวจสอบประวัติของทั้ง 2 คนก็ทราบว่าเพิ่งจะพ้นโทษออกจากเรือนจำไม่นาน ในคดียาเสพติด
ส่วนผู้ที่ก่อเหตุในอาศรม ปู่โต คือ นายสมเกียรติ (เสื้อยืดเหลือง) ซึ่งก็ให้การรับสารภาพว่า ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ตระเวนหาเหยื่อ โดยถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก ขณะขับผ่าน อาศรมปู่โต เห็น น.ส.ระจิตร สวมใส่สร้อยคอทองคำ และอยู่ลำพังคนเดียว จึงลงมือเข้าทำร้ายแต่ได้ทองไปเพียงครึ่งเส้น และกระเป๋าสะพาย หลังจากนั้นได้ขับรถเข้าไปเปลี่ยนเสื้อใหม่ ที่บ้าน พร้อมชวน นายจิรวัฒน์ เพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งเคยติดคุกมาด้วยกัน นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ นำทองไปขายที่ร้านทอง และเตรียมจะพากันหลบหนีไปอยู่ที่อื่น แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว ไว้ได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ก่อนจะนำตัวทั้งสองคนไปดำเนินคดีต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: