ราชบุรี ในวันนี้ ( 10 ต.ค.66 ) ร.ต.อ.คชา อ่อนเหลา ร้อยเวรสภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 5 ต.ปากไก่ อ.ปากท่อ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.พศพงศ์ มณฑา ผกก.สภ.ปากท่อ และ พ.ต.ท.วัชรินทร์ มีศรีผ่อง รองผกก.สส.สภ.ปากท่อ ได้รับทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบเพียงปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกตามพื้นจำนวน 10 ปลอก หัวกระสุนขนาดเดียวที่พื้น 1 หัว และพบว่าที่ประตูบ้านซึ่งเป็นกระจกนั้นมีรอยถูกอาวุธปืนยิงเข้าไป 1 นัดพบหัวกระสุนขนาดเดียวอีก 1 หัว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปากท่อไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนายนัฐตะวัน ฟากฟื้น อายุ 27 ปี อาการสาหัส เนื่องจากถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 2 นัด ตามขาอีกหลายนัด ส่วนผู้ที่ก่อเหตุนั้นทราบชื่อคือนายแอลป์ หรือนายชัยณรงค์ แก้วรังสรรค์ อายุ 26 ปี เป็นคู่อริเก่าที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 1826 ราชบุรี ซึ่งผู้แจ้งจำหมวดอักษรข้างหน้าไม่ได้ หลบหนีออกไป
จากการสอบถามนายพีระ อินทร์ละออ อายุ 60 ปี คนที่เช่าบ้านของนายนัฐตะวัน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บอยู่ ก็บอกว่า ก่อนจะเกิดเหตุตนอยู่ที่หน้าบ้านเห็นนายนัฐตะวัน ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ซุปเปอร์คัพ สีชมพู – ขาว ทะเบียน 1กณ-3297 ราชบุรี เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน และมีเสียงรถจักรยานยนต์ของนายแอลป์ ขี่ตามเข้ามาอย่างรวดเร็วจึงทำให้ตนต้องหันไปมองและเห็นนายแอลป์ชักปืนนายนัฐตะวัน หลายนัดก่อนจะหันไปขี่รถเพื่อจะหนีแต่ก็หันกลับมายิงนายนัฐตะวัน ซ้ำอีกหลายนัดก่อนจะขี่รถหลบหนีไปซึ่งตนเห็นเหตุการณ์ก็ต้องรีบหลบ เมื่อคนร้ายไปแล้วจึงได้รีบบอกให้ญาติคนเจ็บโทรแจ้งเจ้าหน้าที่และตนก็รีบพาร่างของคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลปากท่อเอง เนื่องจากเกรงว่าถ้ารอรถพยาบาลมารับอาจจะทำให้นายนัฐตะวัน ทนไม่ไหว ซึ่งตลอดทางผู้บาดเจ็บจะบอกตลอดว่า แอลป์ยิงๆ ส่วนสาเหตุนั้นทราบว่าเคยมีเรื่องกันมาก่อนแต่ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร
ส่วนน.ส.ดวงจันทร์ ฟากฟื้น อายุ 43 ปี พี่สาวผู้ได้รับบาดเจ็บก็บอกว่า น้องชายขี่รถมาจอดในบ้านและมือปืนขี่ตามมาและเห็นมือปืนจ่อยิงน้องชาย ซึ่งตนก็พยายามร้องว่า อย่าๆ มือปืนก็ยังยิงตนก็ต้องวิ่งหลบได้ยินเสียงประมาณ 7 นัด เข้าตามลำตัวทั้งหมด ส่วนสาเหตุนั้นเป็นเรื่องชู้สาวที่ภรรยาของมือปืนมาชอบน้องชาย ซึ่งในช่วงนั้นน้องชายก็น่าจะมีใจให้ด้วย แต่ต่อมามือปืนจับได้ก็เลิกรากันไปและมีการมาดักทำร้ายน้องชายโดยตีหัวแตก ซึ่งในช่วงนั้นมือปืนไม่ได้ปิดบังใบหน้าทำให้รู้ว่าเป็นใครก็เลยแจ้งความและเรียกค่าเสียหาย 40,000 บาท และมีการทำสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน โดยมีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาช่วยไกล่เกลี่ยให้ โดยให้มือปืนไปอยู่ที่อื่น แต่มือปืนนั้นลั่นวาจาไว้ว่า ถ้าได้เจอกันเมื่อไหร่จะฆ่าให้ตาย และก็มาเกิดเหตุวันนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งวิทยุสกัดจับนายแอลป์ หรือนายชัยณรงค์ แก้วรังสรรค์ ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี รวมทั้งกดดันทางญาติให้นำนายแอลป์มามอบตัว แต่ขณะนี้ยังไม่พบตัวซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องทำการออกหมายจับในข้อหาพยายามฆ่า พกพาอาวุธปืน และยิงยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติต่อไป
