ราชบุรี ในวันนี้ ( 3 พ.ย.66) ได้มีชาวบ้านใน ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กว่า 50 คน ได้เดินทางมาที่สภ.จอมบึง เพื่อมาให้ปากคำในกรณีที่ถูกนางสาววีรยา จอมซื่อตรง ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้มารับสมัครบุคลากรที่จะเข้าไปทำงานในหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ อ.จอมบึง พร้อมทั้งให้ซื้อชุดของเจ้าหน้าที่ป่าไม้พร้อมกับโลโก้ของกรมป่าไม้ ซึ่งแต่ละคนจะต้องจ่ายเงินจำนวน 1,730 บาท รวมเป็นเงินกว่า 10,0000 บาท แต่สุดท้ายไม่มีการรับเข้าไปทำงานบางคนลาออกมาจากทำงานประจำเพื่ออยากมาเป็นลูกจ้างของกรมป่าไม้ เพราะมีสวัสดิการดีและทำงานแค่อาทิตย์ละ 3 วัน ทำให้มีชาวบ้านสนใจบอกต่อ ๆ กันมาสมัครจำนวนมาก และหญิงสาวคนดังกล่าวก็หนีหายไป จึงได้รวมตัวกันมาแจ้งความที่สภ.จอมบึง ในข้อหาฉ้อโกง
โดยนางสาวเสาวนิตย์ ร่ำรวย หนึ่งในผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า นางสาววีรยา จอมซื่อตรง คนที่มาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้นั้นเป็นหลานสะใภ้อยู่บ้านติดกัน ซึ่งบ้านเดิมนั้นอยู่ จ.อุทัยธานีและย้ายตามหลานชายมาอยู่ที่จอมบึง บอกว่าทางป่าไม้เปิดรับสมัครคนงานหลายตำแหน่ง ซึ่งหากทำงานครบ 6 เดือน ก็จะมีการบรรจุให้เป็นพนักงานราชการ ซึ่งตนก็เห็นว่าที่ทำงานนั้นใกล้บ้านเพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยด้วย ซึ่งจะทำงานแค่จันทร์ พุธ และศุกร์ ส่วนอีกรอบหนึ่งก็จะเป็นอังคาร พฤหัส เสาร์ เข้างาน 10.00 น. เลิก 14.00 น. ซึ่งตนได้สอบถามแล้วว่าเป็นจริง จึงได้สมัครแล้วยังไปชวนพี่สาวให้ลาออกจากงานมาสมัครด้วย และมีการไปทำจิตอาสาสมัคร โดยให้เอกสารการสมัครไปแล้ว ซึ่งนางสาววีรยา ก็ยังบอกว่ามีวุฒิสูงกว่าคนอื่นจะให้ทำบัญชีแทนคนเก่าที่ถูกไล่ออก เพราะโกงเงินไป ซึ่งครั้งแรกก็เชื่อว่านางสาววีรยานั้นทำงานในกรมป่าไม้จริงในช่วงที่อยู่ จ.อุทัยฯ เพราะได้รับการยืนยันจากสามีของเขาซึ่งเป็นหลานชายของตน แต่หลังจากนั้นหลานชายก็มาเป็นทหารเกณฑ์ที่ราชบุรี ทำให้ไม่ทราบว่ายังทำงานที่กรมป่าไม้อยู่หรือไม่ ถูกไล่ออกหรืออย่างไรและมีการทำเรื่องย้ายมาราชบุรี โดยมีหนังสือคำสั่งจากกรมป่าไม้มาด้วย ซึ่งก็จะเห็นแต่งชุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทำให้น่าเชื่อถือ โดยครั้งแรกต้องจ่ายเงินค่าประกันสังคม 330 บาท และมาเรียกเก็บค่าเสื้อ 480 บาท ต่อมาก็มีค่ากางเกงอีก 490 บาท ส่วนชุดกรมป่าไม้อีก 2 ชุดจะแจกให้ หลังจากนั้นก็นัดสัมภาษณ์ที่สวนรุกขชาติ จอมบึง ประมาณ 5 คน โดยหลานสะใภ้คนนี้เป็นคนสัมภาษณ์เองโดยอ้างว่าทางกรมให้เบี้ยเลี้ยงตัวเองมาทำเรื่องนี้ พอสัมภาษณ์เสร็จก็เก็บค่าหมวก ผ้าพันคออีก 180 บาท นั้นก็มาเรียกเก็บค่าโลโก้ของกรมป่าไม้อีก 90 บาท รวมจ่ายไป 1,570 บาท ซึ่งตนเองนั้นจ่ายเงินสด แต่คนอื่นนั้นโอนให้โดยแต่ละคนเรียกเก็บไม่เท่ากัน หลังจากนั้นก็ให้ไปทำกิจกรรมจิตอาสาในสวนรุกขาชาติวันที่ 12 ต.ค. ก่อนวันที่ 13 ต.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งวันนั้นคนจะเยอะมาก หลังจากก็มีการเลื่อนวันเข้าทำงาน โดยอ้างว่ามีการเปลี่ยนไซส์เสื้อผ้า ซึ่งทางกรมจะต้องใส่ให้เหมือนกัน ซึ่งเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา จึงทำให้เริ่มสงสัยจึงได้ไปสอบถามเรื่องที่งาน หลานสะใภ้ก็พาไปชี้จุดใน ม.ราชภัฎจอมบึง ต่อมามีเพจ เพจหนึ่งซึ่งโพสต์ข้อความเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ออกมาหลอกชาวบ้านให้ไปสมัครงาน ทางหลานสะใภ้ก็ยังบอกว่าไม่จริง เพจนี้โพสต์ข้อความมั่ว ตนยังได้พาหลานสะใภ้คนนี้มาแจ้งความที่ สภ.จอมบึง ว่าโดนใส่ร้ายด้วย ก็ยังให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จริง หลังจากนั้นก็ให้พาไปดูสำนักงานแต่ไม่มีสำนักงานจริง และให้หลานสะใภ้อีกคนพาไปส่งโดยบอกว่าจะต้องไปจัดสถานที่ในการประชุม หลังจากนั้นก็หายไปเลย และในวันที่ 26 ต.ค.66 ก็มีการนัดที่จะมาทำกิจกรรมจิตอาสาอีก โดยให้ไปรวมตัวที่หน้าร้านสะดวกซื้อภายในม.ราชภัฎฯ จึงทำให้รู้ว่ามีคนที่ถูกหลานสะใภ้หลอกจำนวนมากเพราะมีการรวมตัวกันและเมื่อสอบถามกันจึงรู้ว่าน่าจะถูกหลอกเหมือนกัน และหลานสะใภ้ตัวแสบก็หายตัวไปด้วย จึงได้มาแจ้งความไว้ที่สภ.จอมบึง ดังกล่าว รวมเงินที่ชาวบ้านเสียไปกว่า 100,000 บาท ผู้เสียหายกว่า 50 คน
ด้านนางทิพวรรณ ใจมุ่ง ผู้เสียหายอีกคนก็บอกว่า ตนเองนั้นทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในสำนักงานทหารผ่านศึก ซึ่งอยู่ในตัวเมืองราชบุรี ได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท แต่พอรู้ว่ากรมป่าไม้เปิดรับสมัครคนงานซึ่งอยู่ใกล้บ้าน จึงได้ยอมลาออกจากงานมาสมัครและได้ออกไปสำรวจพื้นที่ป่ากับหลานสะใภ้คนนี้ด้วย โดยมีเบี้ยเลี้ยงและค่าน้ำมันรถให้และมีการถ่ายรูปมาลงในไลน์กลุ่มที่มีคนสมัครอยู่จำนวนมาก ซึ่งไปสำรวจถึง 3 ครั้ง และมาทราบเรื่องเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่มีคนมารวมตัวเยอะ จึงได้โทรหาหลานสะใภ้คนนี้ก็ติดต่อไม่ได้แล้ว จึงได้มาแจ้งความดังกล่าว ทั้งนี้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวหลานสะใภ้ตัวแสบได้เพราะจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นอีก
ต่อมาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้เข้าแจ้งความที่สภ.จอมบึง ในกรณีที่ถูกแอบอ้างเอกสารทางราชการของกรมป่าไม้ไปหลอกชาวบ้านด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: