ราชบุรี ในวันนี้นายประพันธ์ บุญพริ้ง กำนันตำบลหินกอง อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมกับชาวบ้านในหมู่ 7 หมู่ 9 หมู่ 10 และหมู่ 11 ต.หินกอง ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปดูที่บริเวณพื้นที่ถมดินใหม่บริเวณด้านข้างโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในหมู่ 10 ต.หินกอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงาน พบว่ามีน้ำเสียไหลหลากผ่านพื้นที่ตลอดเวลา และบริเวณที่น้ำเสียไหลผ่านนั้นจะมีคราบสีขาวตกตะกอนอยู่บนพื้น และบริเวณที่น้ำเสียไหลผ่านไปต้นไม้จะยืนต้นตาย เพราะคราบสีขาวนั้นไปจับบริเวณต้น และทำให้บริเวณนั้นปลูกพืชไม่ได้เลย และหากน้ำเสียซึมผ่านเข้าไปในนาข้าวของชาวบ้านก็จะทำให้เมล็ดข้าวลีบ ไม่มีน้ำหนัก ซึ่งชาวบ้านที่มาให้ข้อมูลก็บอกว่าตั้งแต่น้ำเสียของโรงงานไหลเข้าไปในแปลงนาเมื่อหลายปีก่อน ผลผลิตข้าวก็ลดลงเรื่อยๆล่าสุดนั้นได้ข้าวเพียง 1 ตัน จากพื้นที่ทั้งหมด 18 ไร่ เนื่องจากดินเริ่มเปรี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำของชาวบ้านที่เคยได้ใช้น้ำในบ่อเพื่ออุปโภคและบริโภค แต่ในปัจจุบันน้ำเสียไหลซึมผ่านลงไปกลายเป็นบ่อรับน้ำเสียไปแล้ว และทางโรงงานก็ให้งบประมาณในการไปต่อประปาหมู่บ้านมาใช้แทนเป็นการเยียวยาเบื้องต้นแต่ไม่ใช่การแก้ปัญหา ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาก
ซึ่งนายชาญ อารมณ์ลักษณ์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านใน ม.7 ต.หินกอง ก็บอกว่าทำนา 30 กว่าไร่ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ข้าวเลยเพราะเมล็ดข้าวลีบ ไม่มีน้ำหนัก เคยไปแจ้งให้ทางโรงงานทราบแล้วเพราะมีพื้นที่อยู่ใกล้กับโรงงาน ก็ได้รับเงินเยียวยามา 40,000 บาท และทางโรงงานก็อ้างว่าเราฉีดยาฆ่าหญ้า ทั้งที่หากฉีดยาฆ่าหญ้าที่พื้นแล้วทำไมต้นไม้ใหญ่ถึงยืนต้นตาย ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำนาแล้วเพราะทำไปก็ไม่ได้ข้าว เพราะสารสีขาวนั้นไปตกตะกอนในนา และไม่มีเงินลงทุนด้วย
ด้านนายประพันธ์ บุญพริ้ง กำนันตำบลหินกอง เป็นปัญหาที่ชาวบ้านร้องเรียนมานาน แต่ปีนี้หนักกว่าทุกปีเพราะบ่อปลาของวัด และชาวบ้านนั้นปลาตายหมด ล่าสุดมีชาวบ้านไปแจ้งความผิดกับทางโรงงาน เพราะเริ่มลามไปเรื่อยซึ่งโรงงานดังกล่าวนั้นประกอบกิจการในการต้มกรดกำมะถัน ซึ่งจะมีกลิ่นแรงมาก เคยร้องไปทางอำเภอเมือง ซึ่งนายอำเภอก็ตั้งทีมงานมาตรวจสอบโดยนำน้ำเสียทั้งในและนอกโรงงานไปตรวจก็พบว่าน้ำมีค่าเป็นกรดสูงมาก ทำให้ข้าวและต้นไม้ตาย ซึ่งที่ผ่านมานั้นไม่เคยเข้าไปตรวจสอบในโรงงานเลยว่ามีการประกอบกิจการอะไรบ้างและมีบ่อบำบัดน้ำเสียหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการประชุมในเรื่องนี้ โดยทางอุตสาหกรรมก็บอกว่าดูแลแค่ภายในโรงงานส่วนน้ำเสียที่ออกมาไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ แต่จะต้องไปดูเรื่องของกฎหมายอีกครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่แม้ว่าจะดูแลภายในโรงงานแต่น้ำเสียนั้นออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมต้องรับผิดชอบด้วยเพราะผลกระทบมันเกิดกับชาวบ้าน ซึ่งทางโรงงานจะรับผิดชอบหรือไม่ แต่หากไม่รับผิดชอบก็จะต้องแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งผลน้ำที่ออกมานั้นเป็นการนำน้ำผิวดินไปตรวจ แต่น้ำบาดาลนั้นต้องมีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลก่อน เพื่อจะได้ออกมาเจาะตรวจ ซึ่งโรงงานนั้นประกอบกิจการมานานกว่า 30 ปี แต่ชาวบ้านได้รับผลกระทบมาประมาณ 10 ปี เพราะโรงงานนั้นอยู่ในพื้นที่สูงทำให้น้ำเสียไหลลงพื้นที่ต่ำ จึงอยากให้ทางโรงงานออกมารับผิดชอบ และหากไม่รับผิดชอบทางอุตสาหกรรมก็จะต้องระงับใบอนุญาติ เพราะตอนนี้น้ำเสียนั้นซึมใต้ดินไปไกลกว่า 3 กิโลเมตรแล้ว
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเทศบาลตำบลหินกอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับผิดชอบก็ทราบว่า ขณะนี้ทางเทศบาลได้ทำหนังสือแจ้งให้กับทางโรงงานได้ทำการปรับปรุงในบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อไม่ให้น้ำเสียไหลหรือซึมออกมา โดยให้เวลา 30 วัน ในการดำเนินการหลังจากพ้นกำหนดก็จะต้องเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- กาญจนบุรี พิธีตักบาตรพระ 10,000 รูป ฉลองตั้งเมือง 193 ปี พร้อมอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ
- คึกคักกว่าทุกปีสุดยอดงานสืบสานประเพณีตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลก!
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: