ราชบุรี หลังจากที่มีโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้เลิกจ้างพนักงานกระทันหันโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื่องจากอ้างว่าโรงงานประสบปัญหา ภาวะขาดทุน ส่งออกไม่ได้ส่งผลให้ พนักงานกว่า 200 คน ประสบปัญหา ไม่ได้รับเงินเดือน โดยเหตุเกิด ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานที่ถูกเลิกจ้างได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงแรงงานแล้ว และล่าสุดได้ไป เขียนคำร้องขอรับเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ราชบุรี ที่เปิดให้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการถูกนายจ้างเลิกจ้างได้ไปยื่นคำร้อง ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ซี่งมีจำนวน 41 คน แต่จนถึงวันนี้เรื่องยังเงียบและสาวฉันทนาทุกคนที่ไปยื่นคำร้องก็ยังไม่ได้รับเงินยียวยาแต่อย่างใด ทำให้ทุกคนได้รับความเดือดร้อน
ล่าสุดในช่วงบ่ายของวันนี้ ( 25 ธ.ค. 66)บรรดาพนักงานที่ถูกเลิกจ้างได้เดินทางมาที่หน้าสำนักงานของนิคมอุตสาหกรรม จ.ราชบุรี เพื่อมาทวงถามเรื่องของการจ่ายเงินเยียวยาจากนายจ้าง โดยมีนายจตุพร กมลพันธุ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกกสภ.โพธาราม ตัวแทนจากอุตสาหกรรม จ.ราชบุรี และนายสมิทธิ สุภาพพรชัย กำนันต.เจ็ดเสมียน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่โรงงานตั้งอยู่ เข้าร่วมพูดคุยกับทางนายจ้าง โดยมีตัวแทนของพนักงานที่ถูกเลิกจ้างเข้าไปพูดคุยด้วย
ซึ่งนางสาวศิริพร อมรกุลสวัสดิ์ อายุ 37 ปี และนางสาวชลลดา มักเจียว อาย 46 ปี ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ไปลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา ซึ่งจะมีเงิน 2 ก้อน คือเงินเยียวยาจากรัญบาลและเงินค่าชดเชยจากนายจ้าง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินอะไรเลย และมีการพูดคุยกันไลน์กลุ่มก็มีการแจ้งว่า ทางนายจ้างจะจ่ายเงินให้กับพนักงานที่ไม่ได้ไปลงทะเบียนที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานก่อน และถ้าหากมีเงินเหลือก็จะนำมาจ่ายให้กับพนักงานที่ไปลงทะเบียน ส่วนที่ไปลงทะเบียนไว้เมื่อโทรไปสอบถามความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ก็บอกว่ายังไม่ได้ทำเรื่องให้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้นำเรื่องมาส่งให้นายจ้าง แต่ไม่ได้พบกับนายจ้าง แต่จะฝากเรื่องไว้กับรปภ. ซึ่งรปภ.ก็ไม่รับเรื่อง จนเมื่อเราโทรไปสอบถามก็เพิ่งจะเดินเรื่องให้ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินเมื่อไหร่ จะทันสิ้นเดือนหรือไม่ก็ยังไม่รู้ ส่วนพนักงานที่ได้รับเงินชดเชยจากนายจ้างแล้วน่าจะมากกว่า 100 คน ไม่รวมแรงงานต่างด้าวที่ไปฟ้องศาลแรงงานเอง ซึ่งวันนี้ก็ได้ประสานไปยัง ส.ส.จตุพร เพื่อขอให้ช่วยในการเจาจรพูดคุยกับทางนายจ้างเร่งให้จ่ายเงินเยียวยาให้ และทราบมาว่าต้นปีหน้าโรงงานจะเปิดประกอบกิจการใหม่ ทำให้ตนมองว่าหากมีเงินที่จะเปิดโรงงานใหม่แต่ทำไมไม่มีเงินจ่ายให้กับพนักงาน
สำหรับการเข้าพูดคุยกับนายจ้างใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง สุดท้าย ส.ส.จตุพร ก็ออกมาบอกว่า เรื่องนี้ต้องให้ทางพนักงานที่ถูกเลิกจ้างตัดสินใจจะเดินยังไงต่อ เนื่องจากมีทางเลือกให้ 3 ทาง โดยให้ นางสาวศิริพร อมรกุลสวัสดิ์ อายุ 37 ปี ได้อธิบายให้กับเพื่อนพนักงานที่รออยู่ด้านนอกว่า 1.นายจ้างจะสู้ในกระบวนการกฎหมายและเมื่อถึงชั้นศาลก็จะมีการไกล้เกลี่ยกัน 2.นายจ้างเลือกที่จะจ่ายเงิน หากจ่ายเงินแล้วทุกอย่างก็จบ และ 3.หากนายจ้างไม่ยอมทำอะไรเลยหน่วยภาครัฐที่ดูแลก็จะยื่นฟ้องในคดีอาญา นายจ้างไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง ซึ่งพนักงานทั้ง 41 คน นั้นจะยืนยันที่จะต่อสู้ตามกระบวนการกฎหมาย หรือจะยอมไปถอนการลงทะเบียนให้และนายจ้างอาจจะจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งในเรื่องนี้ยังไม่มีการรับรองจากนายจ้างว่าจะจ่ายหรือไม่จ่าย ซึ่งพนักงานทั้งหมดที่มานั้นยืนยันว่าจะต่อสู้เรียกร้องตามกรบวนการยุติธรรมแม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลานานแต่ทุกคนก็ยินดีที่จะรอเพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม
