ราชบุรี ในวันนี้ ( 25 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสาวสุพัตรา สกุณี ผู้สมัครผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่ามีมือดีแอบลอบมาเผารถยนต์ที่ช่วยในการหาเสียง ได้รับความเสียหายทั้งคัน จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนางสุนีย์ รวยเงิน อายุ 59 ปี เจ้าของรถ อีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผข-8276 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถที่ถูกมือดีลอบมาเผาเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ได้นำผู้สื่อข่าวไปชี้จุดที่รถถูกเผา ซึ่งอยู่ในโรงจอดรถด้านใน โดยพบว่ามีร่องรอยของผ้าใบที่ถูกไฟไหม้ ส่วนบนหลังคาโรงรถก็ถูกไฟไหม้เสียหายไปบางส่วน นอกจากนี้ที่ด้านหลังโรงจอดรถพบว่ามีเส้นทางเข้าออกซึ่งจะต้องเดินผ่านป่าเข้ามาถึงสองเส้นทาง เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบ้านก็พบว่ากล้องเสียใช้การไม่ได้
โดยนางสุนีย์ รวยเงิน ก็เล่าให้ฟังว่า มีอาชีพขายถ่าน โดยจะไปรับซื้อถ่านกระสอบใหญ่มาจากจ.กาญจนบุรี และนำมาแบ่งเป็นถุงละ 1 กิโลกรัม ก่อนจะนำใส่รถไว้เพื่อจะไปขายในช่วงสายของวันนี้ และเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด และมีคนตะโกนว่าไฟไหม้รถ จึงได้รีบออกมาดูก็พบว่าไฟกำลังลุกไหม้รถของตนเองอยู่ จึงได้รีบไปช่วยกันดับไฟ แต่ก็ไม่ทันเพราะรถเสียหายไปเกือบหมด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ หลังจากนั้นก็ทำการเปลี่ยนยางรถที่มันระเบิดเพราะโดนความร้อน ออกมาจอดด้านนอก ซึ่งตนนั้นเชื่อว่าสาเหตุที่ไฟไหม้รถนั้นไม่ได้เกิดจากถ่านที่อยู่บนรถ เพราะถ่านนั้นหากมีความร้อนจริงก็จะลุกและมอดไปเรื่อย แต่ถ่านทุกถุงนั้นมีการนำออกมาจากกระสอบใหญ่แล้วนำมาแบ่งเป็นถุงเล็ก จึงไม่มีความร้อนที่จะทำให้เกิดไฟได้ แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการวางเพลิง เพราะตนนั้นได้นำเบอร์ที่หลานสาวสมัครผู้ใหญ่บ้านมาติดที่รถเพื่อจะช่วยหลานสาวหาเสียง ประกอบกับมีคนส่งข้อความมาข่มขู่ด้วย จึงทำให้เชื่อว่าจะเป็นการวางเพลิง
ด้านนางสาวสุพัตรา สกุณี ผู้สมัครผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.น้ำพุ ก็บอกว่า เชื่อสาเหตุที่รถถูกเผาเพราะตนนั้นลงสมัครผู้ใหญ่บ้านและได้เบอร์ 1 ซึ่งก่อนที่รถจะถูกเผาได้มีคนส่งข้อความมาข่มขู่ขอให้ถอนตัวจากการสมัครผู้ใหญ่บ้าน และเมื่อรถถูกเผาแล้วก็ยังส่งข้อความมาอีกว่า รถถูกเผาแล้วต่อไปก็จะเผาบ้าน ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีมือดีมาลอบเผารถแน่ ซึ่งตอนนี้ได้แจ้งความไว้แล้ว และจะไม่ยอมถอนตัวเด็ดขาดแต่จะสู้ให้ถึงที่สุด และอยากจะให้ตำรวจจับคนร้ายได้เร็ว แต่ไม่กลัวกับเหตุการณ์นี้ ส่วนรถที่ถูกเผานั้นเป็นรถของน้าที่มาช่วยหาเสียงได้เพียงแค่สองวันก็ถูกเผา จึงอยากจะฝากบอกคนที่ทำว่า ถึงตนเองนั้นจะเป็นผู้หญิงแต่ก็ขอให้มาสู้กันแบบแมนๆให้ประชาชนเป็นคนตัดสินจะดีกว่า เพราะมาทำแบบนี้คนที่เขาไม่รู้เรื่องด้วยต้องมาเสียหายไปด้วย
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของสภ.เมืองราชบุรี ได้ทำการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบชุมชนในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับที่รถถูกเผาเพื่อหาบุคคลเข้าออกตามเส้นทางต่างๆเพื่อจะได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: