ราชบุรี ในวันนี้( 2 ก.ค.67 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการจะปิดเส้นทางข้ามทางรถไฟที่อยู่ใต้สะพานต่างระดับในวันที่ 10 ก.ค.67 และให้ชาวบ้านไปใช้สะพานข้ามทางรถไฟในหมู่ 5 ต.ปากท่อ สัณจร แทน ซึ่งสะพานดังกล่าวนั้นเป็นสะพานปูนเป็นทางลาดที่สามารถเดินข้ามและใช้รถจักรยานยนต์ขี่ขึ้นไปเพื่อข้ามไปอีกฝั่งได้ ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่าสะพานสำหรับข้ามทางรถไฟนั้นคับแคบ ใช้ได้เฉพาะรถจักรยานยนต์และคนเดินเท่านั้นส่วนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปสามารถใช้ได้ นอกจากนี้รถจักรยานยนต์ที่คันใหญ่กว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไปก็ไม่สามารถที่ใช้สะพานนี้ หรือถ้าจะใช้ก็จะลำบากในช่วงโค้งที่จะเลี้ยวลงมาด้านล่าง เพราะช่วงทางโค้งนั้นแคบจนรถไม่สามารถที่เลี้ยวได้ตามปกติ ทำให้บางคันต้องจอดรถและยกท้ายรถบิดเพื่อให้สามารถลงมาได้ และทำการให้การจราจรด้านบนนั้นติดขัดเพราะต้องบิดท้ายรถทุกคัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นอย่างมาก
จากการสอบถามนางสาวนิภาพร เมฆฉาย อายุ 70 ปี ชาวบ้านที่อยู่ติดริมทางรถไฟ ก็บอกว่า เห็นทางการรถไฟนำป้ายมาปิดว่าในวันที่ 10 ก.ค.67 จะทำการปิดทางข้ามทางรถไฟด้านล่าง และให้ชาวบ้านไปใช้สะพานข้ามแทน ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นชุมชนหนาแน่น ชาวบ้านต้องข้ามทางรถไฟไปตลาดที่อยู่ฝั่งตรงข้าม และข้ามมาโรงพยาบาล มาอำเภอ ซึ่งอยู่ฝั่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้ากับช่วงบ่ายจะมีรถจำนวนมากเพราะไปส่งเด็กนักเรียน ไปทำงาน ช่วงบ่ายก็ไปรับเด็กนักเรียนไปซื้อกับข้าว ซึ่งหากต้องมาใช้สะพานข้ามทางรถไฟก็จะลำบากเพราะช่วงทางเลี้ยวลงนั้นคับแคบรถไม่สามารถที่เลี้ยวลงมาได้ต้องขยับหลายรอบมากจึงจะเลี้ยวได้ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์คันใหญ่จะลำบากมากกว่ารถจักรยานยนต์คันเล็ก ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็จะทำให้รถติดขัดมาก ก็เกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดการทะเลาะวิวาทเพราะทุกคนต่างก็รีบ และในช่วงที่มีการก่อสร้างก็มีการประชุมชี้แจงชาวบ้านว่าจะมีการก่อสร้างแต่ไม่ได้ชาวบ้านนั้นไม่เข้าใจว่าและไม่รู้ว่าเส้นทางจะแคบขนาดนี้เพราะไม่ได้มีการเอาแบบมาให้ดู ซึ่งช่วงนั้นทางการรถไฟก็บอกว่าจะทำทางเกือกม้ากลับรถ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเพราะไม่มีความเข้าใจเรื่องเกือกม้า แต่เห็นว่าหลายที่ก็มีทางข้ามแบบสะพานปูนลาดแบบนี้แล้วรถจักรยานยนต์ขึ้นลงได้สะดวกและยังสวนทางกันได้ จึงให้สร้างแบบนี้ แต่เมื่อสร้างเสร็จกลับคับแคบรถสวนทางไม่ได้ และช่วงเลี้ยวยังเลี้ยวลงไม่ได้ต้องขยับรถหลายรอบ หรือต้องยกท้ายรถจึงจะลงมาได้สร้างความลำบากให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงอยากขอให้ทางการรถไฟอย่าเพิ่งปิดเส้นทางข้ามด้านล่างจนกว่าจะมีการแก้ปัญหาหรือทำอุโมงค์ลอดใหม่ก่อน
ส่วนนายจิรวัฒน์ ธนวัฒน์ อายุ 35 ปี ชาวบ้านในหมู่ 8 ต.ปากท่อ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ข้ามสะพานปูนลาด ก็บอกว่าสะพานข้ามแห่งนี้คับแคบรถสวนกันไม่ได้และยังมีเสาตอม่อที่ใหญ่จนมาเบียดพื้นที่เดินรถ เหมาะสำหรับเดินข้ามได้อย่างเดียว โดยเฉพาะในช่วงทางเลี้ยวนั้นลำบาก ต้องหมุนรถหลายรอบหรือบางคันต้องจอดและยกท้ายรถบิดเพื่อให้เลี้ยวได้ นึกถึงว่าถ้าเป็นผู้อายุจะทำยังไงจะยกรถไหวไหม จึงอยากขอให้ทางการรถไฟช่วยแก้ไขให้ช่วงทางเลี้ยวบนสะพานนั้นกว้างขึ้นเพื่อให้เลี้ยวรถได้สะดวก เพราะสะพานข้ามแห่งนี้หากทางการรถไฟปิดทางข้ามด้านล่าง ทุกคนก็จะต้องมาใช้สะพานแห่งข้ามก็เกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุหรือเจอพวกหัวร้อนก็จะกลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาทไปเพราะการจราติดขัดในช่วงทางเลี้ยว หรือหากจะใช้สะพานต่างระดับข้ามไปทำธุระในฝั่งตลาดก็จะไกลมาเพราะจะต้องไปกลับรถแล้วข้ามมา แล้วก็กลับรถมาเข้าตลาดทำให้ไม่สะดวกและต้องเสียเวลาประกอบกับรถเส้นทางบนสะพานนั้นจะเป็นรถยนต์ที่ใช้เท่านั้นก็จะทำให้อันตรายมาก จึงอยากให้ทางการรถไฟช่วยแก้ไขสะพานให้กว้างกว่านี้เพราะนับวันรถจักรยานยนต์ก็จะมีมากขึ้นแต่สะพานแคบก็จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมากขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: