ราชบุรี จากกรณีที่มีชาวบ้านในหมู่ 4 หมู่ 7 และหมู่ 6 บางส่วน ของต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านไม่ให้มีการสร้างฟาร์มไก่ใกล้ชุมชน เนื่องจากในพื้นที่นั้นมีฟาร์มหมู และฟาร์มไก่ มากกว่า 10 ฟาร์มแล้ว ซึ่งฟาร์มที่มีอยู่แล้วนั้นก็สร้างปัญหาให้ชาวบ้านเดือดร้อนมาตลอดหลายปีแล้ว ทั้งเรื่องของกลิ่นและแมลงวันจึงไม่อยากให้มีการสร้างฟาร์มเพิ่มขึ้นมาอีก โดยไปยื่นหนังสือคัดค้านตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.67 ที่ผ่านมา
ในวันนี้( 10 ก.ย.67 ) นายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม พร้อมด้วยนายจตุพร กมลพันธุ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ พลายมาต ผอ.ส่วนควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าพูดคุยกับชาวบ้านหมู่ 4 หมู่ 6 และหมู่ 7 ที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์ หมู่ 6 ต.หนองกวาง อ.โพธาราม
โดยนายสำเริง ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม ก็บอกว่า การที่จะอนุญาติให้มีการสร้างฟาร์มนั้นต้องผ่านพิจารณาจากหลายหน่วยงาน และถ้าทางฟาร์มได้ทำตามขั้นตอนถูกต้องแล้ว ก็จะต้องมีการอนุญาติให้สร้าง แต่เมื่อสร้างแล้วก็จะต้องมีอีกหลายขั้นตอนในการตรวจสอบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหากสร้างไปแล้วพบว่าไม่ทำตามที่มีการกำหนดก็จะมีการตักเตือนให้ปรับปรุงหากยังทำไม่ได้ก็จะต้องถูกพักใบอนุญาติ ซึ่งเชื่อว่าทุกฟาร์มนั้นลงทุนสูง จึงไม่กล้าที่จะไม่ทำตามข้อตกลงที่กำหนด แต่หากพบว่าทางฟาร์มนั้นไม่ทำตามและยังสร้างความเดือดร้อนอยู่ชาวบ้านก็สามารถจะไปฟ้องศาลปกครองเพื่อขอให้คุ้มครองชั่วคราวได้
ด้านนายจตุพร กมลพันธุ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี เขต3 พรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่าในฐานะผู้แทนของชาวบ้านก็จะขอติดตามเรื่องของการขออนุญาติในการสร้างฟาร์ม รวมทั้งเรื่องของฟาร์มที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ให้ปรับปรุงเรื่องของกลิ่น รวมทั้งเรื่องของการแก้ปัญหาแมลงวันที่มีมากในชุมชนด้วย
นอกจากนี้ยังมีตัวแทนของฟาร์มไก่ที่จะมาสร้างในพื้นที่ได้มาชี้แจงเรื่องของการสร้างฟาร์มว่า ทุกฟาร์มนั้นก็จะต้องใช้ระเบียบปฎิบัติที่ทางสิ่งแวดล้อมและทางปศุสัตว์ กำหนดขึ้นมานั้นก็จะต้องใช้ระเบียบเล่มเดียวกัน แต่ว่าแต่ละฟาร์มจะปฎิบัติหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับฟาร์มนั้นๆ แต่ตนนั้นดูแลเฉพาะฟาร์มของตัวเอง ส่วนเรื่องของแมลงวันนั้นก็อยากให้ชาวบ้านยอมรับว่าไม่ได้เกิดจากฟาร์มอย่างดียว แต่เชื่อว่าครึ่งหนึ่งเกิดจากการทำเกษตรของชาวบ้านที่นำปุ๋ยคอกมาใช้ในแปลง ซึ่งปุ๋ยคอกเหล่านั้นก็เป็นต้นเหตุของการเกิดแมลงวันด้วย ส่วนเรื่องของน้ำเสียนั้นฟาร์มไก่มีการใช้น้ำน้อยมากไม่เหมือนฟาร์มหมู จึงไม่อยากชาวบ้านกังวลว่าจะมีปัญหาเรื่องของน้ำเสีย
แต่ทั้งนี้ชาวบ้านที่มาร่วมประชุมรับฟังข้อชี้แจงของหน่วยงานวันนี้ ก็ยังยืนยันว่าอยากให้ทางเจ้าของฟาร์มไก่ที่จะมาสร้างนั้นได้ไปสร้างที่อื่น เพราะในพื้นที่นั้นมีฟาร์มปศุสัตว์มากพออยู่แล้ว
ส่วนนายวินัย สุวะพงศ์ ตัวแทนชาวบ้านในหมู่ 6 ต.หนองกวาง ก็บอกว่า การมาชี้แจงของหน่วยงานในวันนี้ชาวบ้านยังไม่พอใจเพราะมองว่าการแก้ปัญหาของหน่วยงานล่าช้า และในพื้นที่หมู่ 6 นั้นเป็นพื้นที่เล็กๆ แต่มีฟาร์มปศุสัตว์มากกว่า 10 ฟาร์มแล้ว ที่ผ่านมามีการทำประชาคมกับชาวบ้านแล้ว 3 ฟาร์ม ที่จะมาสร้างในพื้นที่นี้ แต่ยังไม่ได้สร้าง 2 ฟาร์ม ส่วนอีกฟาร์มนั้นเริ่มส่งแบบก่อสร้างรวมทั้งการขออนุญาติแล้ว ส่วนฟาร์มที่มีอยู่แล้วนั้นก็สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านทั้งเรื่องของกลิ่น แมลงวัน และฝุ่นละอองที่เกิดจากการใช้พัดลมในฟาร์มไก่ ที่พัดเอาฝุ่นละอองขึ้นมาเต็มท้องฟ้าในช่วงกลางคืน ที่ผ่านมาก็เคยไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอโพธารามแล้ว แต่ทางศูนย์ดำรงธรรมก็อ้างว่าทางฟาร์มกำลังมีการจับไก่ออกจึงยังไปตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี เพราะมีฟาร์มปศุสัตว์มากเกินไป แต่หมู่บ้านอื่นไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ ส่วนแนวทางสุดท้ายที่ชาวบ้านจะเดินต่อไปคือการไปฟ้องศาลปกครอง แต่หากว่าไม่มีใครช่วยได้ก็ต้องยอมรับชะตากรรม
