X

หนุ่มใหญ่เปิดสวนอินทผลัมให้ชิมเป็นครั้งแรก  หลังมีผลดกมาก

ราชบุรี   ที่บริเวณสวนของนายวินัย    เกษมศรี  อายุ 59 ปี   เกษตรกรที่รวมกลุ่มกับสมาชิก ทดลองปลูกอินทผลัมแบบเพาะเนื้อเยื่อ สายพันธุ์ WDP  ในพื้นที่ 15 ไร่ บริเวณหมู่ 11 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราบุรี  มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมและชิมผลสดของลูกอินทผลัม  ซึ่งปลูกในลักษณะแบบยกร่อง ติดสปริงเกอร์น้ำ เพื่อปล่อยรดตามเวลา  ขณะนี้อินทผลัมเริ่มให้ผลผลิตแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนการปลูกประมาณ 300 ต้น มีการห่อคลุมผลด้วยถุงสีน้ำตาลขนาดใหญ่ไว้  ผลสุกเหลืองสามารถเด็ดชิมรับประทานจากต้นได้สด ๆ

      โดยนายวินัย    เจ้าของไร่อินทผลัม เปิดเผยว่า   ปลูกอินทผลัมมาเป็นปีที่ 3 แล้ว   ปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ แต่ต้องดูแล  ให้ปุ๋ย ให้น้ำ  ขั้นตอนการปลูกซื้อต้นแบบเพาะเนื้อเยื่อ ลักษณะยังเป็นต้นเล็กมีแค่ 2 ใบเลี้ยง ราคาต้นละ 1,300 บาท แต่หากซื้อต้นที่เพาะจากเมล็ดจะมีราคาต้นละ 200 – 300 บาท ซึ่งทางกลุ่มไม่ขอแนะนำเพาะจากเมล็ด เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าต้นที่ซื้อมานั้น เป็นต้นตัวผู้หรือต้นตัวเมีย  แต่หากปลูกแบบเพาะจากเนื้อเยื่อทั้งหมดแบ่งแยกชัดเจนว่าต้นไหนเป็นตัวผู้หรือต้นตัวเมีย  โดยต้นตัวผู้ 1 ต้น สามารถนำเกสรมาผสมต้นตัวเมียได้ประมาณ 15 ต้น   อย่างที่ไร่นี้จะปลูกต้นตัวผู้ไว้เฉพาะที่ เพื่อนำเกสรมาผสมกับต้นตัวเมีย

การปลูกระยะห่างกันประมาณ 8 X 8 เมตร ต้องขุดหลุมให้กว้างจะช่วยทำให้รากดูดซึมอาหารได้ดี ส่วนการคัดแยกระหว่างตัวผู้กับตัวเมียจะซื้อจากตัวแทนที่จำหน่าย ถ้าสนใจปลูกจะต้องขอใบรับรองจากห้องแล็บมาด้วย เพื่อยืนยันเป็นต้นอินทผลัมของจริงมาปลูก อินทผลัม 1 ต้นสามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 50 กิโลกรัม   ขายกิโลกรัมละ 500 – 600 บาท หรือ ประมาณต้นละเกือบ 30,000 บาท

       เรื่องที่ควรระมัดระวังคือ  ตัวด้วงชนิดหนึ่งที่เป็นศัตรูตัวร้าย จะคอยทำลายต้น ทางกลุ่มจะคอยแนะนำการดูแลใช้สารเคมีบางชนิด เพื่อกำจัดตัวด้วง  เมื่ออินทผลัมเจริญเติบโตได้ประมาณ 2 ปีเศษ จะเริ่มให้ผลผลิตมากขึ้นเรื่อย ๆ  ส่วนการส่งจำหน่ายของกลุ่มจะมีบริษัทแปรรูป  น้ำอินทผลัมผลสด อินทผลัมผลแห้ง  อินทผลัมชนิดผงใช้ชงแบบชา  ตอนนี้มีจำหน่ายอยู่ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง บางส่วน ส่งต่างประเทศด้วย  ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เปิดให้ชม ชิมผลสดถึงสวน อนาคตอันใกล้ จะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.จอมบึง

              ด้านนายศุภสวัสดิ์ วัฒนกุลโชติ นักท่องเที่ยว  ก็บอกว่า รู้สึกสนใจจึงมาเที่ยวชม ไม่น่าเชื่อว่า อ.จอมบึง ซึ่งมีสภาพเป็นพื้นที่แห้งแล้ง แต่สามารถทำเกษตรลักษณะนี้ได้ ถือว่าจะช่วยนำเงินตราเข้าประเทศได้อีกมาก ต้นหนึ่งให้ผลผลิตประมาณ 50 กิโลกรัม ขายได้ราคาประมาณ 500 – 600 บาท 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 30 ต้น ขายได้เงินต้นละประมาณ 30,000 บาท  เกษตรกรคนไหนมีพื้นที่ไม่มาก ก็สามารถปรับเปลี่ยนมาปลูกต้นอินทผลัมได้ หลังจากได้เดินเที่ยวชมและเด็ดชิมผลสดแล้วรู้สึกว่ามีรสชาติ หวาน กรอบ อร่อยดี

สำหรับบรรยากาศการเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวได้ชม ชิม อินทผลัมผลสด ทางไร่ได้ตั้งโต๊ะนำอินทผลัมผลสดให้ชิมฟรีแล้ว  ยังจำหน่ายแบบเป็นพวงสดใส่ถุง ๆ ละ 1 กิโลกรัม หรือ จะเป็นพวงใหญ่ ตัดสดเพาะซื้อกลับบ้าน  ทั้งเดินชม ชิม บันทึกภาพเซลฟี่ กับพวงอินทผลัมที่ห้อยระย้าสุกเหลืองอร่าม    ส่วนเกษตรกรที่สนใจอยากจะปลูกสามารถสอบถามได้ที่  นายวินัย เกษมศรี  เจ้าของไร่อินทผลัม โทรศัพท์ได้ที่หมายเลข   090-4359449

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี