X

แอบนำสารเคมีจากโรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมทิ้งริมอ่างเก็บน้ำ

เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ที่ลักลอบนำสารเคมีมาเททิ้งที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำสำนักห้วยไม้เต็ง  ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่  หวั่นกระทบต่อสัตว์น้ำ

วันที่ 21 พ.ค.61   พ.ต.ท.รัฐศักดิ์  อิ่มฤทธา  รองผกก.ป.สภ.เมืองราชบุรี  และนายไพฑูรย์  ปัตนา   นายก อบต.น้ำพุ   อ.เมือง    พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่ริมอ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง   ม.2   ต.น้ำพุ   อ.เมือง  จ.ราชบุรี    หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่มาตกปลาอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำว่าเห็นมีคนน้ำสารเคมีมาเททิ้งในป่าละเมาะส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ   เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบรถกระบะ  ยี่ห้อ  อีซูซุ  สีน้ำตาล  หมายเลขทะเบียน บน -6378 พิจิตร   ด้านหลังรถมีถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร  บางถังกำลังถูกเจาะเพื่อเทสารชนิดหนึ่งมีสีดำลงที่พื้น  ซึ่งส่งกลิ่นเหม็นจนแสบจมูก   จึงได้เข้าทำการจับกุมและสั่งให้หยุดดำเนินการ  พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี  เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม  เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม และทหารให้มาร่วมตรวจสอบ

จากการสอบถามนายสุรศักดิ์  นาคทับ อายุ 28 ปี บ้านอยู่หมู่ 5  ต.วัดยางงาม  อ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี   ซึ่งเป็นคนขับ    นายสุภกิจ   มณีโชติ อายุ 21 ปี   และนายเริงชัย    เงินยวง   อายุ 21 ปี   เป็นคนงานที่กำลังเจาะถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร จำนวน 16 ถัง เทลงพื้นดิน  ก็ทราบว่าได้รับจ้างนายตั้ม  ไม่ทราบนามสกุล ไปขนถังสารเคมีจากโกดังภายในโรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม   ชื่อบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์   ซึ่งตั้งอยุ่ในหมู่ 8  ต.รางบัว  อ.จอมบึง  จ.ราชบุรี  และเป็นโรงงานรับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม และถูกชาวบ้านหมู่ 1  ต.น้ำพุ  อ.เมือง  ร้องเรียนเรื่องของการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานลงลำห้วยสาธารณะ และการฝังกลบขยะที่ไม่ได้มาตรฐาน  ทำให้น้ำเสียรั่วซึมลงใต้ดิน  จนทำให้น้ำใต้ดินนั้นมีกลิ่นเหม็น ชาวบ้านไม่สามารถนำมาใช้ได้   นอกจากนี้โรงงานแห่งนี้ก็ถูกคำสั่งของศาลแพ่งแผนกคดีสิ่งแวดล้อม คุ้มครองชั่วคราว ระงับการนำเข้าสารเคมี การฝังกลบสารเคมีและถังสารเคมีกับทั้งกากอันตรายในพื้นที่โรงานไว้เป็นการชั่วคราว  หลังจากตรวจพบว่ามีการลักลอบฝังกลบอีก    ให้มาทิ้งที่บริเวณนี้  โดยไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีที่นำมานั้นเป็นสารอันตรายจากนั้นก็จะนำถังส่งขายร้านรับซื้อของเก่า    ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำสารที่นำมาเทลงดินไปตรวจสอบว่าเป็นสารอันตรายหรือไม่  พร้อมกับส่งตัวทั้งสามคนไปดำเนินคดี ตามพรบ.สาธารณสุข  และพรบ.รักษาความสะอาด พร้อมกับยึดรถคันที่พบในที่เกิดเหตุไว้   และถ้าตรวจพบว่าสารดังกล่าวเป็นสารอันตรายก็จะดำเนินคดีในข้อหา นำวัตถุอันตรายมาทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี