แม่และเพื่อนๆ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกแทงเสียชีวิต แห่ศพจากบ้านประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อขอความเป็นธรรม หากจับคนร้ายไม่ได้จะไม่เผาศพลูกชาย เหตุเกิดที่แหล่งท่องเที่ยวแก่งหูแร่ อำเภอบางแก้ว พร้อมขึ้นป้ายไวนิล “ท่านนายก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยด้วย”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง นางสาว จิตราภรณ์ เกื้อตุ้ง อายุ 39 ปี แม่ผู้เสียชีวิตพร้อมเพื่อนๆของนายชิตพล ดำกลิ่น เกือบ 100 ชีวิต ที่ใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่กันมาเป็นขบวน ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกทำร้ายร่ายกายถูกแทงด้วยอาวุธมีดเสียชีวิต บริเวณแหล่งท่องเที่ยว แก่งหูแร่ อำเภอบางแก้ว ได้แห่ร่างของผู้เสียชีวิต คือนายชิตพล ดำกลิ่น อายุ 17 ปี ที่บรรจุอยู่ภายโลงศพ จากบ้านเกิด ตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง มายังบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อขอความเป็นธรรมโดยยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง เพื่อให้เร่งรัดคดีจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นเหตุการณ์กลางวัน และมีผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก อีกทั้งมีพยานเพื่อนของผู้เสียชีวิตเข้าให้ปากคำแล้วหลายราย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี ไม่สามารถจับร้ายมาดำเนินคดีได้ จึงได้แห่ศพประท้วงดังกล่าว
1 เรียกร้องให้เร่งรัดคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษโดยเร็วที่ สุดเนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์.ก่อเหตุเวลากลางวันในสถานที่ท่องเที่ยวสาธารณะ 2 หากรัมกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวเนื่องจากก่อเหตุอุกอาจ แถมอาจจะไปข่มขู่พยาน 3 ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาไว้ซึ่งเกียรติวินัยตำรวจดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง 4 ขอให้แจ้งผลการดำเนินการให้ข้าพเจ้าและญาติทราบอย่างต่อเนื่องหากไม่เห็นด้วยจะได้ร้องคัดค้านตามกระบวนการต่อไป
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวแก่งหูแร่ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นเหตุทะเลาวิวาทระหว่างกลุ่มวัยต่างถิ่นที่ไปเที่ยวยังสถานที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุชุลมุนนั้นนายชิตพล ดำกลิ่น ถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าบริเวณหน้าอก และถูกนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเขาชัยสน แต่ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้จึงเสียชีวิตที่โรงพยาบาลขาชัยสน
ทางด้านนางสาวจิตราภรณ์ เกื้อตุ้ง อายุ 39 ปี กล่าวว่าลูกของตนเองเสียชีวิตมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ยังไม่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นช่วงกลางวัน มีผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก นอกจากนั้นพยานที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินการใด “ตนจึงขอประกาศหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้ ตนก็จะไม่เผาศพลูกชายอย่างเด็ดขาด”
ทางด้าน พ.ต.อ..สุรเชษฐ์ แก้วขาว ผกก.สภ.บางแก้ว กล่าวว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้วได้เนลร่งรัดคดีดังกล่าว โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดังกล่าว ได้เรียกสอบผู้ต้องสงสัยไปแล้วจำนวน 2 ราย ที่อยู่ในเหตุการณ์แจ้งข้อหากล่าว “ร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปและบุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ถึงแก่ความตายโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น” และหากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยในจำนวน 2 รายดังกล่าวเป็นผู้ทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเจตนาฆ่าคนตายทันที่
และหลังจากนางสาวจิตราภรณ์ เกื้อตุ้ง อายุ 39 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เข้ายื่นหนังสือกับนายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมฟังคำชี้แจงจากหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จะรีบดำเนินคดีให้เร็วที่สุดเพื่อจับคนร้าย ทางผู้ชุมนุมที่แห่ศพประท้วง ก็แยกย้ายกลับบ้านพร้อมนำศพกลับวัด ในเวลาต่อมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: