วันที่ 2 พค. 65 22.00 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ยศวรรน์ กระจ่างวงค์ ผู้กำกับสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พร้อม พ.ต.ต.จำเริญ อินทร์แก้ว หัวหน้าชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่หน่วยปฎิบัติการพิเศษพัทลุง ( ฉก.เสือดำ) ออกตรวจพื้นที่ อำเภอป่าพะยอม จ..พัทลุง พบรถยนต์กระบะสีบรอนซ์เงิน ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นคันที่ใช้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงขึ้นฟ้าหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองพัทลุงหลายสิบนัด โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีการโพสต์คลิปเหตุการณ์ลงในสื่อโซเซียลว่าหนังไม่เหนียวอย่ามาเที่ยวพัทลุง จนเป็นเหตุการณ์ที่ฉาวโฉ่และมีการวิพากษ์วิจารณ์กับการกระทำของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จึงได้เรียกตรวจ ทราบชื่อคนขับรถคือนายสานิต คงแก้ว อายุ 30 ปี อยู่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายธีระพงษ์ เกิดวัน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 285 ม.3 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง สอบถามคนขับพบว่าเป็นรถที่อยู่ในคริบที่มีการแชร์ กันส่วนคนที่ยิงอาวุธสงครามชนิด เอ็ม 16 นั้นคือนาย นายพิชชากร เกิดวัน อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนของกลาง ขนาด 9 มม. ไปก่อนหน้านี้
ก่อนนำตัวทั้ง 2 รายมาสอบปากคำเพิ่มเติม ทราบว่า นายธีระพงษ์ เกิดวัน อายุ 32 ปี พี่ชายของนายพิชชากรนั้นเป็นคนขับรถยนต์กระบะคันสีแดงที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไปก่อนหน้านี้ และเป็นคนขับในคืนเกิดเหตุ และเป็นผู้ลงมือยิงอาวุธปืนขนาด 9 มม.ด้วยตนเอง
ขณะที่นายพิชชากร เกิดวัน อายุ 19 ปี ระบุตอนแรกว่าเป็นคนยิงอาวุธปืนขนาด 9 มม.ในคืนเกิดเหตุ ล่าสุดยอมรับสารภาพว่าเป็นคนใช้อาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 ยิงขึ้นฟ้าเอง ส่วนอาวุธปืนนั้นได้รับจำนำมาจากเพื่อนรายหนึ่ง แต่ตอนนี้มาไถ่คืนไปแล้ว
ส่วนผู้ต้องหากลุ่มที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าทั้งหมด รวม 5 คน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้แล้วทั้งหมด มีนายพิชชากร เกิดวัน นายธีระพงษ์ เกิดวัน นายสานิต คงแก้ว นายนัฐนันท์ สังข์ทอง และวัยรุ่น อายุ 16 ปีอีกหนึ่งราย ส่วนเหตุจูงใจในการยิงเบื้องต้นทั้งหมดบอกทำเพื่อความคึกคะนองเท่านั้น
เบื้องต้นทั้งหมดมีฐานความผิดร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีติดตัว ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช้เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือชุมชน
ขณะที่ผู้ช่วย ผบ ตร. พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ได้สั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งหาอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 กระบอกที่ใช้ก่อเหตุตรวจยึดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพราะที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดพัทลุงมีเหตุอาญากรรมเกิดขึ้นบ่อยครั้งแม้จะจับผู้ต้องหาได้แต่อาวุธถือว่ายังจับได้น้อยเมื่อเทียบกับคดีที่เกิดขึ้น
