พัทลุง-เหตุคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้านพัก หลังสำนักงานไฟฟ้าควนขนุน หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 18 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ฉลอง ขุนภักดี สารวัตรเวร สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 พัทลุง มีเหตุคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้านพัก หลังสำนักงานไฟฟ้าควนขนุน หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ในที่เกิดเหตุบริเวณถนนหน้าบ้านพักของนาย ภาสกร หลินมา อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุน ขนาด 5.56 มม. ที่ใช้ยิงกับอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม16 ตกอยู่ จำนวน 11 ปลอก ตรงกำแพงมีรอยกระสุนจำนวน 2 จุด และรถยนต์เก๋งโตโยต้ารุ่นยาริสสีดำหมายเลขทะเบียน กข.9649 พัทลุง มีร่องรอยถูกยิง 1 จุด และฝาผนังบ้านอีกจำนวน 3 จุด แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวน นาย ภาสกร หลินมา อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะที่เดินออกมาจากในบ้านเพื่อนที่จะเรียกลูกชายที่นั่งเล่นอยู่หน้าบ้านให้เข้านอน เป็นช่วงจังหวะที่มีรถจักรยานยนต์ วิ่งเข้าแล้วคนนั่งซ้อนท้ายกระโดดลงจากรถแล้วใช้อาวุธปืนสงครามยิง เข้าใส่นับสิบนัด เป็นจังหวะที่ตนเองหมอบลงกับพื้น แล้วคนร้ายก็ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนตนเองและลูกชายโชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทรัพย์สินต์ได้รับความเสียหายดังกล่าว
ซึ่งสาเหตุในเบื้องต้น ตนเองเชื่อว่ามาจากปัญหาความขัดแย้งกับลูกผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง โดยเหตุเกิดจาก เมื่อราวประมาณ 1 เดือน ที่ผ่านมาขณะที่ตนเองกำลังลาก รถแม๊กโฮกลับบ้าน แล้วได้ประสบอุบัติเหตุชนกับรถยนต์เก๋งของลูกชายผู้ใหญ่บ้าน รถยนต์เก๋งได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนรถพ่วงลากแม๊กโฮของตนเองพังเสียหาย ซึ่งตนเองก็พร้อมรับผิดชอบ เพื่อรักษาน้ำใจซึ่งกันและกัน แต่จู่ๆลูกชายผู้ใหญ่บ้านโทรมาบอกว่ารถตนเองได้รับความเสียหายโดยช่างซ่อมไป 50,000 บาท ขอให้ตนเองชดใช้ให้ ซึ่งตนเองตอบกลับไปว่ารถแค่ลูกหมากคันส่งเสียหายซ่อมอะไรราคาสูงแบบนั้น ซึ่งหากราคา 10,000 บาทตนเองก็พร้อมจะชดใช้ให้ นี่ราคามันสูงกว่าความเป็นจริง และในวันเกิดเหตุก็ไม่ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างได หลังจากนั้นต่อ ลูกชายผู้ใหญ่บ้านได้โทรมาทวง และโทรมาขู่เกือบทุกวัน ล่าสุดเมื่อวานก็ยังโทรมาขู่หากไม่จ่ายตามจำนวนที่ขอก็จะไม่รับรองความปลอดภัย จนกระทั่งถูกยิงถล่มบ้านดังกล่าว ซึ่งตนเชื่อว่าสามเหตุมาจากเรื่องนี้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวน พร้อมแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่คาดว่าเป็นเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อประกอบเป็นหลักฐาน ก่อนติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
