เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามวัดต่างๆ ทั่วภาคใต้มีชาวพุทธไปร่วมทำบุญกันอย่างคึกคัก ลูกหลานชาวพัทลุงต่างได้เดินทางกลับบ้านเพื่อร่วมทำบุญครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปี อย่างที่วัดควนกรวด ตำบปรางหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ประชาชนในพื้นที่ จ.พัทลุง ร่วมกันทำบุญรับตายาย หัวใจของประเพณีบุญสารทเดือนสิบเพื่ออุทิศผลบุญกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับและตกนรกกลายเป็นเปรตรับโทษทัณฑ์ คือการ “ทำบุญรับ-ส่งเปรต” หรือ “ทำบุญรับ-ส่งบรรพบุรุษบรรพชน” ในท้องถิ่นบางพื้นที่เรียกว่า “ทำบุญรับ-ส่งตายาย
สำหรับงานบุญวันสารทเดือนสิบ เป็นประเพณีของพุทธศาสนิกชนทางภาคใต้ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาเช้านาน ปีหนึ่งจะมีการทำบุญ 2 ครั้ง
วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ครั้งหนึ่ง (ในปี 2565 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2565) “วันรับตายาย”
แรม 15 ค่ำ เดือน 10 ครั้งสอง (ในปี 2565 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565) “วันส่งตายาย”
พุทธศาสนิกชนจะทำขนมขึ้นมาเป็นการเฉพาะ 5 ชนิดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ
ทำบุญเดือน 10 เป็นประเพณีสำคัญอย่างหนึ่งที่ชาวภาคใต้ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เนื่องมาจากความเชื่อทางพุทธศาสนาว่า ในปลายเดือน 10 พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย และญาติพี่น้องซึ่งล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่มีบาปตกนรกอยู่ซึ่งเรียกว่า “เปรต” จะได้รับการปล่อยตัวจากพยายมให้ขึ้นมาพบลูกหลานและญาติพี่น้องของตนในเมืองมนุษย์ใน “วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 และให้กลับไปอยู่เมืองนรกดังเดิมในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10”
ชาวพัทลุงและชาวภาคใต้ทั่วไปเรียกว่า “วันชิงเปรต” หรือ “ประเพณีชิงเปรต” แต่ทางภาคกลางเรียกว่า “วันสาร์ท” หรือ “ประเพณีวันสารทไทย” เป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เปตชนหรือบิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ที่ล่วงลับไปแล้วตามคติความเชื่อของชาวบ้านทั่วไป โดยการทำบุญบริจาคทานถวายพระภิกษุสงฆ์เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายนั่นเอง
