ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณี เมื่อวานนี้ 12 ต.ค.65 ตำรวจกองปราบ บุกเข้าจับกุมตัวนายธนเดช แก้วช่วง หรือ รุจ อายุ 27 ปี หนุ่มฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าคนตายออกมาเมื่อปี 64 และได้ไปก่อเหตุฆ่าแฟนสาวเสียชีวิตในห้องพัก ย่านบางกอกน้อยเสียชีวิต เมื่อ 4 เดือนก่อน
ต่อมาตำรวจกองปราบสืบทราบว่า นายธนเดช ได้หลบหนีลงใต้มาซ่อนตัวอยู่ภายในแมนชั่นแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง จึงบุกเข้าไปจับกุม แต่เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ยังพบ หญิงสาวอายุ 31 ปีอีกคน ถูกนายธนเดช ทุบตีจนหน้าตาปูดบวม ถูกขังอยู่ภายในห้องพักด้วย จึงนำตัวหญิงสาวรายนี้ส่งโรงพยาบาลเมืองพัทลุง ส่วนนายธนเดช ตำรวจได้ส่งตัวขึ้น กรุงเทพฯ เข้ากองบังคับการปราบปราม ช่วงคืนที่ผ่านมา
ความคืบหน้าวันนี้ทีมข่าวได้ เดินทางไปที่อพาร์เมนท์ที่เกิดเหตุภายในเมืองพัทลุง พบว่า อพาร์ทเมนท์ดังกล่าวมีทั้งหมด 4 ชั้น จากการสอบถาม เจ้าของอพาร์ทเมนท์ให้ข้อมูลว่า นายธนเดช ได้เข้ามาเช่าห้องพักอยู่ ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา โดยเข้าพักอยู่บริเวณชั้น 3 ของอพาร์ทเมนท์ ตอนแรกที่มาพัก นายธนเดช ได้เดินทางมาพักเพียงคนเดียว หลังจากนั้นไม่นาน นางสาวเนย (นามสมมุติ) หญิงสาวที่ถูกทำร้ายตามเข้ามาพักด้วยภายหลัง และจากนั้นก็ไม่เคยนางสาวเนยอีกเลย
ทางเจ้าของอพาร์ทเมนท์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา คนในอพาร์ทเมนท์ไม่เคยได้ยินเสียงทำร้ายร่างกายกันภายในห้องพัก หรือ เสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือเลย อาจเป็นเพราะชั้น 3 ที่นายธนเดชพัก อยู่ห้องริมสุดท้ายของชั้น 3 ซึ่งจะไม่ติดกับผู้เช่าพักห้องอื่น ประกอบกับ ตนเองก็พักอยู่บริเวณชั้น 2 ของอพาร์ทเมนท์ทำให้ไม่ได้ยินเสียง
และตนเองก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกับนายธนเดชเท่าไหร่ ทุกครั้งที่เจอ เจ้าตัวก็จะยิ้มทักทายกันปกติเท่านั้น และไม่เคยเห็นนายธนเดช พาน้องสาวเนยขึ้นลงอพาร์ทเมนท์เลยด้วยซ้ำ และคิดว่า นายธนเดช อยู่คนเดียวมาตลอด
มารู้อีกทีเมื่อวานนี้ ตกใจมากที่ตำรวจกองปราบ นำกำลังขึ้นไปปิดล้อมจับกุมนายธนเดช บนอพาร์ทเมนท์ ซึ่งตนเองก็ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
ไม่คิดเลยว่า นางสาวเนย ซึ่งเป็นหญิงสาวที่ตนเองเคยเห็นช่วงแรกๆ จะถูกขังอยู่ภายในอพาร์ทเมนท์ของตนเอง และพอเห็นสภาพหน้าตาที่ปูดบวดจากการถูกทำร้ายอย่างหนักของนางสาวเนยแล้วก็สงสารมาก และอยากให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เสียใจมากที่มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นภายในอพาร์ทเมนท์ หากรู้ก็คงไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่นอน โชคดีที่ตำรวจบุกมาจับเสียก่อน หากช้าไปอีกไม่นาน นางสาวเนยอาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ได้
ขณะเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง เล่า ผู้ต้องหาแวะกินข้าวที่ร้านทุกวันเพราะติดใจหมูกรอบอร่อย ทุกครั้งที่มาไม่เคยพาผู้หญิงลงมาด้วย แต่จะสั่งข้าวเพิ่มอีก 1 กล่อง อ้างเอาไปให้แฟนสาวบนห้อง เชื่ออาจมีเหยื่อมากกว่า 1 ราย เพราะเคยแอบได้ยินผู้ต้องหาแชทและคุยโทรศัพท์กับกิ๊กตลอดเวลาที่มานั่งกินข้าวที่ร้าน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ่อค้าขายอาหารตามสั่ง ซึ่งอยู่ห่างจากอพาร์ทเมนท์เพียง 50 เมตร ให้ข้อมูลว่า ตัวผู้ต้องหาก่อนจะถูกตำรวจจับ เป็นลูกค้าประจำ มากินข้าวร้านตนเองเป็นประจำทุกวัน โดยแวะมากินข้าวที่ร้านประมาณ 15 วันได้แล้ว โดยทุกครั้งที่มาจะเลือกสั่งกระเพราะหมู และข้าวหมูกรอบ เพราะผู้ต้องหาชมว่า หมูกรอบร้านตนเองอร่อยที่สุด
แต่ทุกครั้งที่ผู้ต้องหามากินข้าวที่ร้าน จะไม่เคยพาแฟนสาวมานั่งกินด้วยสักครั้ง แต่จะสั่งข้าวและน้ำเพิ่มอีก 1 ชุด อ้างว่า จะเอาไปให้แฟนสาวที่พักอยู่บนอพาร์ทเมนท์
ส่วนนิสัยใจคอเท่าที่พูดคุย เจ้าตัวเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน บางทีนั่งกินข้าวอยู่ ก็มักจะแชทและโทรศัพท์คุยกับสาวคนอื่น และแกล้งบอกตนเองว่า พี่แป๊ปนึงนะ เดี๋ยวขอคุยกับกิ๊กก่อน และตนเองก็มักจะเห็นผู้ต้องหา โทรคุยกับสาวทุกครั้ง ก่อนจะเอาข้าวขึ้นไปให้แฟนสาว
มีอยู่วันหนึ่ง ตนเองได้ยินเจ้าตัวพูดกับสาวในโทรศัพท์ว่า พี่อยากเจอผมไหม ถ้าพี่อยากเจอ พี่นัดผมมาได้เลยนะ เดี๋ยวผมจะไปหาพี่เดี๋ยวนี้เลย ซึ่งตนเองเชื่อว่า ไม่ใช่นางสาวแน่ๆ ที่ถูกผู้ต้องหาล่อลวงมาทำร้าย และอาจจะเหยื่อผู้หญิงคนอื่น ๆ อีก อยากให้ตำรวจลองขยายผลจากการค้นประวัติแชทในโทรศัพท์ผู้ต้องหาดู
ตนเองยอมรับว่า หลังตำรวจบุกมาจับนายธนเดช ตนเองไม่คิดเลยว่า เจ้าตัวจะมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมขนาดนี้ พอมารู้ประวัติที่ก่อคดียาวเป็นหางว่าว ก็ยิ่งเหลือเชื่อ เพราะเจ้าตัว ใช้ชีวิตปกติมาก ไม่ดูมีพิรุธเหมือนคนกำลังหนีคดีมาเลย ขนาดอพาร์ทเมนท์ดังกล่าวอยู่ห่างจาก สภ.เมืองพัทลุง เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ของวันที่ 11 ตุลาคม ช่วงเวลาประมาณ 14.35 น. ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกจับเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) จะเห็นว่า นายธนเดช สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น ใส่หมวก ได้เดินออกจากอพาร์ทเมนท์ ไปยังร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านประจำ
ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมากินข้าวและนั่งกินข้าวที่ร้าน ประมาณ 7 นาที จากนั้นเวลาประมาณ 14.42 น. จะเห็นนายธนเดช ได้หิ้วถุงข้าวกล่อง 1 และน้ำ เดินกลับเข้าอพาร์ทเมนท์ใช้ชีวิตปกติ ซึ่งข้าวกล่องดังกล่าวนั้น คาดว่า นายธนเดช จะนำไปให้นางสาวเนย ที่ถูกขังอยู่บนห้องพัก
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ไปยังนายแพทย์จรุง บุญกาญจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุง ให้ข้อมูลว่า นางสาวเนย ขณะนี้อาการปลอดภัย พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงเฝ้าดูอาการและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 1 เดือน
จากการตรวจของทีมแพทย์ พบ นางสาวเนย ถูกผู้ก่อเหตุทำร้าย ทั้งบริเวณใบหน้า ที่เป็นแผลฟกช้ำ ดั้งจมูกหัก 1 ซี่ , กระดูกซี่โครง ทั้งด้านซ้ายและขวา หักรวม 9 ซี่ , กระดูกสันหลัง บริเวณเอว และหลัง หัก 3 ตำแหน่ง ซึ่งเกิดจากผู้ก่อเหตุ ลงมือทำร้ายทั้งเตะ ต่อย ชกหน้า และกระทืบติดต่อกันนานหลายวัน หลังจากนี้ แพทย์จะเข้ามาดูแลรักษา และนำจิตแพทย์มาร่วมฟื้นฟูสภาพจิตใจเจ้าตัวอีกด้วย
ด้านนางสาวเนย (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับผู้ต้องหาทางเฟซปุ๊กแล้วได้ชักชวนให้มาเที่ยวที่พัทลุง ตนจึงลงตามมามาถึงก็ขังไว้ในห้อง ไม่ให้ออกไปไหน และฝ่ายชายมีอารมรุนแรง ระแวง หากหนูมองหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ทั้งตบ ทั้งแตะ หรือมองหน้าเขา ก็ไม่ได้ โดนซ้อมตลอด เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามสาวเนย ว่าพฤติกรรมของฝ่ายชายเป็นเช่นไร สาวเนยระบุ เขามีนิสัยชายรักชาย และขายตัว ชอบถ่ายภาพอวัยะเพศตัวเองส่งไปขายให้กับลูกค้าในสื่อออนไลน์ ได้เงินมา ครั้ง ละ 200 บาท ผู้สื่อข่าวยังสอบถามอีกว่ามีการเสพยาไหม สาวเนยบอกเห็นเขากินยาเม็ดสีฟ้า ๆ ทุกครั้ง ก่อนที่จะนั่งเล่นเกมส์สล๊อต ส่วนยาเสพติดอื่นไม่เห็น แต่เขามีอารมฉุนที่รุนแรง
