ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณี เมื่อเวลาบ่าย 3 โมงเย็น(17 ต 65 )ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ ของ สภ.ป่าพะยอม ว่ามีเหตุคนร้ายหลอนยา มีอาวุธปืนแย่งรถเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าตรวจเข้าระงับเหตุ บริเวณบ้านห้วยกรวด ท้องที่ ม.8 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จากนั้นคนร้ายขับรถหลบหนีมายังตลาดป่าพะยอม
โดยคนร้ายได้ใช้ปืนจี้บังคับเพื่อนพร้อมกับลูกสาวให้ขึ้นรถตำรวจมาด้วย หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตาม พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธรพัทลุง สืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ชุด ฉก.เสือดำ หน่วยปฎิบัติการพิเศษพัทลุง
การติดตามเจ้าหน้าที่ติดตามคนร้ายอย่างใกล้ชิด จากนั้นรถตำรวจของคนร้าย เกิดเสียหลักชนป้ายบอกทาง และเสาไฟฟ้า ริมถนน ได้รับความเสียหาย รถพัง ไม่สามารถต่อไปได้ โดยผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อนาย เกริกพันธุ์ กาญชนะพันธุ์ อายุ 43 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ม.6 ต.ป่าพะยอม ได้ใช้ปืนพกสั้นขนาด.38 มม. บังคับให้เพื่อนขับรถต่อ แต่รถไม่สามารถไปต่อได้ จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่เพื่อเข้าบริเวณศีรษะ 1 นัด ขาซ้าย 1 นัด ก่อนใช้อาวุธปืนจี้ลากลูกสาวที่นั่งอยู่ในรถลงมา แล้วลากเข้าบ้านพัก ก่อนตำรวจปิดล้อม
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมาตำรวจได้แจ้งโรงพยาบาลป่าพะยอม มารับคนเจ็บ ทราบชื่อคือนาย สิทธิพร ปิ่นแก้ว อายุ 27 ปี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บภายในรถ ส่งรักษาตัว ในอาการสาหัส
ส่วนการปิดล้อมจับกุมของเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาปิดล้อมนานนับชั่วโมง ก่อนที่ลูกสาวที่ถูกเป็นตัวประกัน ได้โทรมาแจ้งตำรวจว่า พ่อขอยอมมอบตัว เนื่องจากถูกยิงเข้าที่ขา เสียเลือดมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ลูกสาวเดินออกมาพร้อมอาวุธปืน เมื่อลูกสาวถึงตำรวจและมอบอาวุธปืนพกสั้นที่ก่อเหตุให้ เจ้าหน้าที่ชุด ฉก.เสือดำ จึงได้เข้าปิดล้อมบ้านพัก ก่อนนาย เกริกพันธุ์ ผู้ก่อเหตุ ได้เปิดประตูออกมาเพื่อมอบตัว ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าควบคุม และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุ พบว่า รถของตำรวจที่นายเกริกพันธุ์ชิงมานั้น ถูกชนกับป้ายบอกทางริมถนนจนพังยับ
จากการสอบถาม สิบเอกทนงศักดิ์ ชูรัก อายุ 31 ปี คู่กรณีที่นายเกริกพันธุ์บุกมายิง ซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่อง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.50 น. ตนเองอยู่แถวหน้ามหาวิทยาลัยทักษิณ นายเกริกพันธุ์ ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน ได้ส่งข้อความผ่านทางไลน์ มาข่มขู่ บอกว่า จะเข้าไปฆ่าพ่อกับแม่ตนเอง ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ พร้อมกับรีบเดินทางกลับบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของ
จากนั้นไม่นาน ประมาณ 30 นาที นายเกริกพันธุ์ ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าร้าน และโวยวายอาละวาดอยู่สักพัก ไม่รู้ว่าหลอนยามาจากไหน
กระทั่งรถตำรวจสายตรวจ ซึ่งมีตำรวจ 3 นาย ของ สภ.ป่าพะยอม รีบเดินทางมาเข้าระงับเหตุ โดยตำรวจได้จอดรถทิ้งไว้ริมถนนใกล้กับรถมอเตอร์ไซค์ของนายเกริกพันธุ์ ซึ่งจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามร้าน
แต่ระหว่างที่ตำรวจกำลังพูดคุยเจรจากับนายเกริกพันธุ์ จู่ๆ นายเกริกพันธุ์ ได้ชักอาวุธปืน กระหน่ำยิงเข้าใส่ตนเองและแม่ที่ยืนอยู่ภายในร้าน ทำให้ตนเอง แม่ และชาวบ้านที่มาซื้อของอยู่ภายในรีบก้มหลบกระสุนกันหมด
โดยตนเองเห็นว่าขณะนั้น ตำรวจ หลังได้ยิงเสียงปืน ได้วิ่งหาที่กำบัง และได้ชักปืนยิงสวนไปยิงฝ่ายนายเกริกพันธุ์หลายนัด จนนายเกริกพันธุ์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนตนเอง รีบเข้าไปหลบอยู่ภายในบ้าน
ซึ่งขณะนั้น คาดว่า นายเกริกพันธุ์ ได้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงหาทางหนีจากตำรวจ โดยวิ่งไปเปิดประตูรถตำรวจที่กำลังสตาร์ทรถอยู่ และขับรถหลบหนีไปทันที
ซึ่งตนเองยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนใช้ปืนยิงนายเกริกพันธุ์ แต่ตำรวจเป็นคนยิง
ส่วนความขัดแย้งที่นายเกริกพันธุ์บุกมายิง ตนเองไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่ที่ผ่านมา นายเกริกพันธุ์ เสพยาบ้าหนักจนหลอน และก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า มา 2 คืนติดแล้วก่อนจะมาเกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่าช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 วันนี้ ตนเองกำลังนั่งเลี้ยงลูกอยู่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด
จากนั้นได้ยินเสียงรถชนกับเสาไฟฟ้าเสียงดัง จึง ชะโงกหน้าออกมาดูพบว่า รถตำรวจประสบอุบัติเหตุ
ตอนแรกตัวเองจะวิ่งเข้าไปช่วย เพราะเห็นว่า เป็นรถตำรวจ แต่ผ่านไปไม่นาน ได้มีชายซึ่งไม่ใช่ตำรวจวิ่งลงจากรถ ถืออาวุธปืนพร้อมกับพาเด็กผู้หญิงมาด้วย
และทั้งสองได้วิ่งเข้ามาภายในห้องแถวที่ตนเองพักและวิ่งเข้าไปหลบอยู่ภายในห้องสุดท้าย ก่อนที่ตำรวจจะเข้าปิดล้อม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะให้ลูกสาวถือปืนออกมามอบตัวกับตำรวจ ดังกล่าว
ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง เข้าตรวจสอบรถตำรวจคันที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อ ดูวิถีกระสุน และร่องรอยการถูกยิง พบว่ารอยกระสุนที่ยิงเข้ามาในรถตำรวจนั้น เป็นกระสุนปืนที่ยิงมาจากข้างนอก แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นอาวุธปืนชนิดได เพราะไม่พบหัวกระสุน แต่คาดว่าเป็นอาวุธปืนยาว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ไล่ดูกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายชิงรถตำรวจหลบหนี พบว่าขณะที่ขับรถผ่านกล้องยังมี รถรยนต์กระบะสีดำ ขับไล่ตามหลังมา แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือของคู่กรณีที่ขับตามยิงไล่หลัง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: