ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานข่าวคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าที่ปฏิบัติบนเทือกเขาบรรทัดและยิงปะทะ “ แป้ง นาโหนด “ ผู้ต้องหาหลบหนีจากโรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้หลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่ขนำในป่าลึกใกล้ ๆ บ้านในตระ ท้องที่เขตรอยต่อจังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง จังหวัดสตูล บริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง หมู่ที่ 6 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่า ที่ประกอบไปด้วยหน่วยปฏิบัติพิเศษ ภาค 9 หน่วยปฏิบัติพิเศษ ภาค 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแดนไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนุมาน กว่า 80 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่บนเทือกเขาบรรทัด ได้ระดมกำลังปิดล้อมพร้อมเดินหน้ากดดันนายเชาวิต หรือ แป้ง นาโหนด ที่กำลังหลบหนีไปตัวคนเดียวพร้อมอาวุธปืนจำนวน 3 กระบอก เป็นอาวุธปืนยาว 2 กระบอก อาวุธปืนสั้นอีก 1 กระบอก และยังขาดเสบียงอาหารอีกด้วย ลงจากบริเวณสันเขามาทางฝั่งจังหวัดพัทลุง บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนุมาน ชุด ชป.สุนัขสงคราม ชุดเสื้อดำภาค 9 รออยู่บริเวณเชิงเขา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง สภ.ตะโหมด และ สภ.กงหรา ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนโดยรอบบริเวณอ่างเก็บน้ำฯ และเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน พร้อมออกค้นตามหมู่บ้านเชิงเขา
อย่างไรก็ตามในวันนี้ (ที่ 9 พ.ย 66) ตลอดทั้งวัน ทางด้านฝั่งจังหวัดพัทลุง ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง และนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้มีการนำเสบียงส่งไปส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติหน้าที่ทั้งบนภูเขาและบริเวณเชิงเขาทั้งทางอากาศ และทางเรือ พร้อมกันนั้นที่บริเวณทางขึ้นอ่างเก็บน้ำฯ เจ้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษส่วนหน้าสนับสนุนกำลัง ก็จะย้ายจากพื้นที่จังหวัดจังหวัดตรัง มาตั้งศูนย์ที่อ่างเก็บน้ำฯ เนื่องจากการเดินทางไปยังจุดหมายกลางป่าเขาเทือกเขาบรรทัดฝั่งจังหวัดพัทลุงจะสะดวกกว่ากว่าเส้นเดินทางจากจุดอื่นๆ เมื่อสามารถไล่ล่าหรือกดดันนายเชาวลิตฯ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผช.ผบ.ตร. ซึ่งในเย็นของวันนี้จะมีการประชุมวางแผนอีกครั้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหัวชุดไล่ล่า เพื่อควานหัวตัว นายเชาวลิตให้ได้ตัวโดยเร็ว
ในขณะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำผู้ต้องสงสัยมีส่วนร่วมการช่วยเหลือการหลบหนีของนายเชาวลิตฯ มาสอบปากคำทั้ง 2 คน โดยทั้ง 2 คนได้ให้การรับสารภาพ และชี้เส้นทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินขึ้นเข้าไปปิดล้อมจับตัวที่ขนำ แต่ระหว่างที่ตำรวจเดินเข้าไปนั้นนายเชาวลิตฯได้ไหวตัวทัน และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ตำรวจ จนกระทั่งมีการยิงต่อสู้กันขึ้นนานกว่า 5 นาที เมื่อเสียงปืนสงบตำรวจเข้าเคลียพื้นที่ ไม่พบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นพบอาวุธปืนยาว 1 กระบอก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มกำลังสนับสนุน เดินเข้าไปในบ้านตระมากขึ้น
สำหรับนายมนัส (ขอสงวนนามสกุล) และนายภาณุวัตร (ขอสงวนนามสกุล) ที่ตำรวจสอบสวนและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งสามารถเดินทางไปหาตัวเสี่ยแป้งที่ขนำนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาการช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนีแต่อย่างใด จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่านายเชาวลิตฯมีชาวบ้านในหมู่บ้าน 2 คน ทราบชื่อเล่นนายปริก และนายนก เดินทางมารับที่ใกล้อ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง จากนั้นได้เข้าไปบ้านในตระและอาศัยอยู่บ้านในตระเป็นเวลาประมาณ 5 วัน หลังจากนั้นได้นำเสี่ยแป้งไปฝากให้ ”บังเขียว” เป็นผู้ดูแลที่บริเวณขนำนาย ห่างจากบ้านในตระประมาณ 2 กม และผู้ทั้ง 2 คนที่นำเสี่ยแป้งเข้าป่าในวันแรกก็หายตัวไป ทำให้นายมนัส (ขอสงวนนามสกุล) ต้องอยู่ดูแลนายเชาวลิตร่วมกับนายภานุวัตร ซึ่งทางด้านนายภาณุวัตรฯที่นอนพักรักษาตัวใน รพ.พัทลุง จากการถูกมีดพร้าบาดจนเป็นแผลฉกรรจ์ และนายมนัสฯนั้น ขณะนี้ทางตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามล่าสุดได้รับทราบจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือรายหนึ่ง เผยว่า ในการไล่ล่า “แป้ง นาโหนด “ ในพื้นที่บ้านในตระในวันนี้นั้น ได้พบรองเท้าแตะ และเสื้อของนายเชาวลิตฯได้ถูกถอดทิ้งใกล้ๆบริเวณจุดปะทะกับตำรวจเมื่อวานนี้ (ที่ 8) โดยนายเชาวิตสวมเพียงกางเกงสามส่วนเท่านั้น ทำให้ทางตำรวจชุดไล่ล่ามีความมั่นใจสูงว่านายเชาวลิตคงหนีไปได้ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากไม่มีคนนำทางและไม่ชำนาญเส้นทาง ในขณะเดียวกันก็ขาดเสบียงอาหารในการยังชีพในขณะหลบหนี ทำให้ชุดไล่ล่าเกิดความมั่นใจว่านายเชาวลิตน่าจะหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.พัทลุง เพื่อเข้ามาหาญาติ หรือพรรคพวกเพื่อนฝูงคนใดคนหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้ทางตำรวจชุดไล่ล่าได้ปิดล้อมเส้นทางที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางของนายเชาวลิตในทุก ๆ พื้นที่แล้ว ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: