“นิพิฎฐ์” อัดตำรวจขาดเอกภาพในการทำงานจนคว้าน้าเหลว พร้อมเน้นย้ำ “ ความอยุติธรรม เลวร้ายกว่าความตาย ”
นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป.และ รมต.ยุติธรรม เผยกับผู้สื่อข่าวที่บ้านพักว่า การเผยแพร่คลิปของเสียแป้งนั้น หากมองในกระบวนการยุติธรรมก็ต้องถือว่าเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่ามีคำพิพากษาจนถึงที่สุด แม้กระทั่งครั้งนี้เขาได้หนีออกจากคุกคดีก็ยังไม่มีคำพิพากษาว่าเขาหนีออกจากคุกทั้งๆที่เขาอยู่นอกคุก ทางกฎหมายยังถือว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ หากเขาถูกจับตัวได้ก็ต้องส่งฟ้องเขาในข้อหาหลบหนีออกจากถูกคุมขัง จะหนีจริงหรือไม่ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย คลิปที่นำออกมาเผยแพร่นั้นเป็นการเรียกร้องความยุติธรรมของเสี่ยแป้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นหลักที่สำคัญมากและเป็นหัวใจของสังคม ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครจะเป็นผู้ต้องหา จำเลย ผู้พิพากษา อัยการ ทุกๆคนต้องการความยุติธรรมด้วยกันทั้งนั้น เขาจึงมีคำกล่าวเอาไว้ว่า “ ความอยุติธรรม เลวร้ายกว่าความตาย ” มนุษย์จึงต้องต่อสู้จนเสียชีวิตเพื่อต้องการความยุติธรรม
นายนิพิฎฐ์ฯ กล่าวอีกว่า การที่เสียแป้งออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมนั้นน่าจะมาจากกระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมานั้นเขายังไม่ได้รับความเป็นธรรมในบางส่วน ซึ่งผู้มีอำนาจตามกฎหมายบางรายไปกระทำจนทำให้กระบวนการยุติธรรมเบี่ยงเบนไป เรื่องนั้นจึงต้องได้รับการพิสูจน์ และเราก็ต้องรับฟังเขาด้วย ซึ่งสิ่งที่เขาพาดพิงไม่ว่าจะเป็นตำรวจ อัยการ ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้นไม่ว่าเสี่ยแป้งจะถูที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะร้องรีบดำเนินการ และแถลงให้ประชาชนได้รับทราบว่าบุคคลที่เสียแป้งพาดพิงถึงนั้นได้มีส่วนในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่
นายนิพิฎฐ์ฯ ยังกล่าวอีกว่า ผบก.ภ.จว.พัทลุงที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่อื่นและได้เข้ามาลาตนนั้น เขาบอกว่าเราต้องปรับวัฒนธรรมของคนใน จ.พัทลุงกันใหม่ โดยเฉาะในกระบวนการยุติธรรมต้องทำกันใหม่ทั้งหมด ตนจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องรื้อฟื้นเรื่องดังกล่าวกันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอัยการ ตำรวจ ยกเว้นกระบวนการตุลาการ ซึ่งตนมั่นใจ 90 เปอร์เซ็นว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่นอกจากนั้นคงพูดได้ยากว่าบริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนตุลาการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างไรบ้าง นายนิพิฎฐ์ฯ กล่าวว่า เมื่อก่อนคนพัทลุงเป็นคนสู้คน พูดจาโผงผาง แต่ในกรณีของเสี่ยแป้งคนกลับเงียบหมด ไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้ทั้งๆที่พวกเขารู้ว่าตำรวจ อัยการ คนไหนที่พัวพันกับเสี่ยแป้ง คนพัทลุงเขารู้กันหมด แต่มีคน 2 คนที่ยังไม่ทราบก็คือ ผบ.ตร. และอัยการสูงสุด คนพัทลุงหลายคนทราบว่าอัยการ ตำรวจ รายไหนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเสี่ยแป้ง และรู้ว่าตำรวจคนไหนที่เป็นคนสร้างเสี่ยแป้งขึ้นมา รวมถึงการได้รับเงินจากเสี่ยแป้ง แต่ตนมั่นใจว่า ผบ.ตร.และอัยการสูงสุดยังไม่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว
นายนิพิฏฐ์ฯ ยังกล่าวอีกว่า คนพัทลุงจะต้องถือว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียน ต้องแยกความถูก ความผิดให้ออกจากกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าคำพูดของคนผิดเป็นเท็จไปทั้งหมด เพราะบางครั้งคำพูดของคนผิดก็เป็นเรื่องจริงหากแยกไม่ออกเราจะหลงเอง และสิ่งที่เราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนของการไล่ล่าคนร้ายในครั้งนี้ ก็คือการการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจขาดความเป็นเอกภาพ ขาดการข่าวที่ดี ต่างๆคนก็อยากเป็นฮีโร่ในการจับตัวคนร้าย หากตำรวจมีความพร้อมทั้ง 2 อย่างดังกล่าวคงจับกุมคนร้ายได้ไปนานแล้ว ทางด้าน ผบ.ตร.ก็ต้องรู้ว่าตำรวจที่ลงมาปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นเอกภาพ ต่างคนต่างหาข้อมูลของตนเองโดยไม่แชร์ข้อมูลให้คนอื่นๆทราบ ทำให้ต้องเสียงบประมาณในการไล่ล่าคนร้ายไปมากมาย สน.ตำรวจแห่งชาติจึงต้องรื้อกระบวนการดังกล่าวกันใหม่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: