พาณิชย์ ออกตรวจร้านค้าปลีก แก๊สหุงต้ม ห้ามขายเกินราคา หากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งได้ที่ 1569
คุณบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้นำเงินกองทุนน้ำมัน 30,500 ล้านบาท เพื่อตรึงราคาขายปลีก แก๊สหุงต้ม ภาคครัวเรือนในอัตรา 10 บาทต่อ กก. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ส่งผลให้ ก๊าซหุงต้ม ราคาลดลงประมาณ 32 บาทต่อถัง ทำให้ปัจจุบันราคาขายปลีกอยู่ในระดับสูงถึง 363 บาท ต่อถัง/15 ก.ก. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2561 เป็นต้นมา
เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค และปรามผู้ประกอบการไม่ให้ฉวยโอกาสจำหน่ายแก๊สหุงต้มเกินราคา กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายปลีก แก๊สหุงต้ม ให้ทำการติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีกก๊าซหุงต้มและค่าบริการอื่นๆให้ชัดเจน โดยเริ่มในพิ้นที่ กทม. จำนวน 10 สาย
ตรวจสอบในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ดำเนินการออกตรวจสอบร้านจำหน่ายปลีกก๊าซหุงต้มในพื้นที่ทั่วประเทศเช่นเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2561 เป็นต้นมา
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ประกอบหลายรายจำหน่ายราคาสูงเกินกว่าที่กำหนดไว้ ทางกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป นอกจากนนี้ยังพบผู้ประกอบการที่บรรจุแก๊สไม่เต็มถัง จากการส่งเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดเข้าร่วมตรวจสอบการบรรจุและปริมาตรก๊าซหุงตั้มทั่วประเทศ
ผลการตรวจสอบผู้ประกอบการ 462 แห่ง จำนวน 24,974 ถัง พบบรรจุก๊าซไม่เต็มปริมาณจำนวน 309 ถัง ผู้กระทำผิด 9 ราย ได้ดำเนินคดีฐานความผิดขายหรือจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อขายหรือจำหน่ายซึ่งสินค้าหีบห่อที่แสดงปริมาณไว้ โดยรู้ว่าปริมาณของสินค้าที่บรรจุในหีบห่อไม่ถูกต้องที่แสดงไว้ เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน รายละ 20,000 บาท
ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายก๊าซหุงต้มสูงขึ้นเกินกว่าราคาแนะนำ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เจ้าหน้าที่จะดำเนินการนำข้อร้องเรียนส่งให้เจ้าหน้าที่ สายตรวจออกตรวจสอบต่อไป รวมทั้งสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
ขออนุญาตเจ้าของภาพ เนื่องจากลงข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์
ที่มา – http://xn--22c0bihcbb7dg4lnac3am9zla.com/article-23/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81-%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1-%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2-%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1569.html?fbclid=IwAR2M42PoLzpYQPgynHxTJMseD5InIrf2DLJez5hdOpT3f7NaQMVkdGb7qz0
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: