X

นิวนักร้องสาวใต้เปิดใจเคยลำบากแต่มีบางอย่างทำให้ชีวิตพลิก

ชื่อ ว่าที่ร้อยตรีหญิง มาริษา บุญลึก
ชื่อ เล่นนิว เกิดวันที่​ 13 ตุลาคม 2537 อายุ​ 25​ ปี
ภูมิลำเนา บ้านเลขที่​ 46 ม.5 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี มีพี่น้องสอง คน มีพี่ชาย 1 คน นิวเป็นคนสุดท้อง จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์สาขาการปกครอง​ และจบปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์สาขาสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงเช่นกัน


หลังจากจบมัธยมปลายก็เป็นช่วงที่เศรษฐกิจแย่พอดี ที่บ้านทำอาชีพสวนยางพาราอย่างเดียว​  ซึ่งรายจ่ายค่อยข้างสูงถ้านิวเรียนต่อใน มหาลัยปิด ก็เกรงว่าพ่อกับแม่คงจะส่งไม่ไหวอีกทั้งมหาลัยปิด คงหาเวลาไปทำงานเสริมได้ยาก นิวเลยตัดสินใจขึ้นมาเรียนรามเพราะมีค่าหน่วยกิตเพียง​ 25 บาท อีกทั้งเป็นมหาลัยเปิดไม่บังคับไปเรียน แต่ต้องไปสอบเอา จำวันแรกที่ขึ้นมากรุงเทพได้เลย แม่ไปกู้ยืมเงินมาให้นิว 10,000 บาท มา กทม.เพื่อเป็นค่ารถทัวร์ ค่าสมัครเรียนต่อและเป็นค่าเช่าห้อง ขึ้นมาเรียนได้ไม่ถึงเทอมนึง ที่บ้านก็ต้องประสบปัญหาทางการเงิน พี่ชายโดนคดีความ​ ติดคุก ทำให้คนที่จะทำงานส่งนิวเรียนได้มีแค่พ่อกับแม่

บวกกับราคายางที่ตกต่ำมากๆ ทำให้นิวต้องหางานทำอย่างจริงจัง จนได้งานแรกที่ทำคือเป็นพนังงานร้านกาแฟ ทั้งชงเอง เสิร์ฟเอง ขายเอง เจอเจ้าของร้านใจดี​ ไว้วางใจให้นิวบริหารจัดการทุกสิ่งอย่างในร้านเอง พอถึงช่วงสอบก็เอาหนังสือไปอ่าน ถ้ามีสอบก็ปิดร้านไว้ก่อนแล้วไปสอบค่อยกลับมาเปิด นิวทำงานที่ร้านกาเเฟได้เกือบสองปี จนมีรุ่นพี่ชวนไปเปิดร้านข้าวหมูทอดด้วยกันในตอนกลางคืน ก็ไปจ่ายข้าวหมูทอดกับรุ่นพี่ไปด้วย พอกลางวันก็มาทำงานร้านกาแฟเหมือนเดิม จนเดือนสุดท้ายที่จะลาออกจากร้านกาแฟ เพราะนิวเริ่มมีเงินเก็บบางส่วนบวกกับมีคนจะเซ้งร้านขนมจีนในราคาหลักพัน และค่าเช่าประมาณ​ 3​ พันนิดๆ ตอนนั้น คิดว่าต้องบุกงานที่ได้มากกว่าเดือนละ​ 9,000 บาท​  ซึ่งรวมค่าหอ ค่ากินมันไม่พอสักเดือน ไม่เคยได้ไปเที่ยวไปดูหนังไปทำกิจกรรมอื่นๆ​ แบบที่วัยรุ่นคนอื่นไปกัน ชีวิตแต่ละวันอยู่กับการทำงาน จนถึงเดือนสุดท้ายที่จะลาออกจากร้านกาแฟก็มีพี่เจ้าของร้านใจดีทั้งคู่​  ให้นิวลงทุนเองและขายเองเพื่อเอาเงินเดือน​ เดือนสุดท้ายไปเลยได้เท่าไหร่ก็ให้หมดเลยเพื่อจะให้เอามาต่อยอดทำทุน

เปิดร้านขนมจีบ นิวก็มาเปิดร้านขนมจีนร้านเล็ก ในซอยราม 65 ตอนนั้นเหนื่อยมาก แต่ก็คิดเสมอว่าขึ้นมาแล้วต้องสู้ต้องเรียนให้จบ ต้องมีทุกอย่างเหมือนคนอื่น นิวต้องตื่นตั้งแต่ตี​ ​2 เพื่อไปซื้อของเตรียมมาขายในตอนเช้า กว่าจะซื้อของเสร็จประมาณตี​ 4 ขับมอเตอร์ไซค์ไปกลับตลาดบางกะปิ กลับมาอาบน้ำ ไปเปิดร้านทำน้ำแกงตอนตี​ 5​ กว่าๆ เพื่อขายในตอนเช้า ตอนนั้นทำคนเดียว ไม่มีเงินจ้างใคร ก็มีเพื่อนเเวะเวียนมาเที่ยวมาช่วยเก็บร้าน ระหว่างวันที่ว่างจากขายขนมจีนก็หาเสื้อผ้า หาครีม หากะเป๋ามาโพสต์ขายในออนไลน์เพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้อีกทางนึง พอช่วงสอบก็ทำเหมือนเดิม วันไหนมีสอบก็ปิดร้านไปสอบ ว่างก็อ่านหนังสือ บางวันก็ไม่ได้นอน มีท้อๆ​ แอบมองคนอื่นที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกัน อยากมีโอกาสได้ไปนั่งติวแบบคนอื่นๆ​  แต่เพราะต้องหาเงิน เลยไม่มีโอกาสนั่นนอกจากดูอาจารย์สอนย้อนหลังจากเว็บมหาวิทยาลัย แล้วก็หันมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินต่อไปเรื่อยๆ​

ขายขนมจีนไปได้ประมานปีกว่าเก็บเงินได้ส่วนนึงพอที่จะช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้ และเซ้งร้านน้ำปั่นเพิ่มอีก 1 ร้าน​ รวมกันเป็นร้านเดียวกับร้านขนมจีนเลย เพื่ออยากได้เงินเพิ่มอีกแลกกับความเหนื่อยเพิ่มแต่ถือว่าคุ้ม มีเงินลงทุนในการขายออนไลน์เพิ่ม ก็หาครีมมาลงเพิ่มผลตอบรับดีเรื่อยๆ จนสามารถมีเงินจ้างเพื่อนให้ช่วยดูร้านให้และนิวก็ไปสมัครงานพาร์ทไทม์เพิ่มเป็นงานคอลเซ็นเตอร์เเห่งหนึ่ง ที่ได้เงินเพิ่มจากเดิมประมาน​ 9,000-12,000 แล้วแต่ทำมากทำน้อย ตอนนั้นเรียกว่าทำงานหนักมาก​ ทำทุกสิ่งอย่างให้ได้เงิน มีช่วงที่นักร้องหญิงขาด ก็ไปช่วยร้องแจมเรียกได้ว่าวันนึงจัดลำดับงานที่ทำไม่ถูกเลยถ้าวันไหนมีงานร้องเพลงวันนั้นจะไม่ไปทำพาร์ทไทม์ แต่เลือกตื่นตี​ 2 ไปซื้อของมาทำน้ำแกงขนมจีนเหมือนเดิม อยู่ร้านถึงตอนเย็น กลับมาอาบนำ้แต่งตัวที่ห้อง ไปร้องเพลงต่อ 2​ ทุ่ม 1 ร้าน 4​ ทุ่มอีก 1 ร้าน แล้วก็เลือกตื่นเช้า ไปเข้างานพาร์ทไทม์​ 8​ โมงครึ่งเพื่อเลิก​ 2​  ทุ่ม แล้วมาช่วยเก็บร้านทำบัญชี​ ใช้ชีวิตแบบนี้จนเหลือตัวเรียน เพียงแค่ 2-3 ตัวก็จบ

ช่วงนั้นของขายดีทุกอย่าง หยิบจับอะไรก็ขายได้หมด โชคเริ่มเข้าข้างเริ่มมีคนชวนไปเล่นเอ็มวีบ้าง ไปเป็นแบบแต่งหน้าบ้าง บวกกับธุรกิจออนไลน์ขายดีขึ้นเรื่อยๆ ได้เงินเยอะกว่าการทำงานทุกๆ​ อย่างพร้อมกัน และอยากตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อจะได้สอบ​ 2​ ตัวที่เหลือให้ผ่าน​  เลยตัดสินใจเซ้งร้านทั้งหมดเพื่อมาจับธุรกิจออนไลน์อย่างเดียว​ เพื่อได้มีเวลาอ่านหนังสือ เพราะจริงๆ​ แล้วเตือนตัวเองเสมอว่าขึ้นมาเรียน ก็ควรให้ความสําคัญกับเรื่องเรียนให้มากที่สุด แต่อย่างว่าแหละค่ะ เรียนก็ต้องใช้ปัจจัยในการดำรงชีวิต ไม่มีเงินก็ไม่ได้เรียน …จนเซ้งร้านแล้วก้อมาขายออนไลน์จริงจัง เริ่มทำคลิปร้องเพลงลงเล่นๆ ในเฟซบุ๊กเรื่อยๆ เอาจริงๆ​ ทำมานาน​ ตั้งแต่ทำงานร้านกาแฟ คือชอบถ่ายคลิปร้องเพลงลง เรื่อยๆ​ จนถึงช่วงกลับบ้าน กลับบ้านช่วงไหนก็กลับไปทำอาชีพเดิมคือกรีดยาง ลืมบอกว่าตอนอยู่บ้าน​ นิวกรีดยางตั้งแต่ตอนเรียน ม.4-ม.5

จุดพีคมาตรงตอนนิวกลับบ้านไปกรีดยางแล้วร้องเพลงขณะที่กรีดยางไปให้แม่ถ่ายไป ก็อัพลงเฟซบุ๊กปกติเหมือนที่เคยลง จนมีคนแชร์หลักหมื่น มีคนรุ้จักมากขึ้นเรื่อยๆ​ มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็นแสน มีคนช่วยซื้อของออนไลน์มากขึ้น และวันนึงมีแชทเด้งขึ้นมาชื่อเฟซ ภานุวัฒน์ ศรีนวล ทักมาถามว่าสนใจที่จะร้องเพลงหรือทำเพลงมั้ย คือตอนนั้นดีใจมาก ตั้งแต่เด็กชอบฟังเพลงของพี่ๆใ​นค่ายต้นกล้าตั้งแต่มิตรภาพ และติดตามชายคาเคียงดาวมาตลอด พอโอกาสมาถึงนิวก็ไม่รอรี​ รีบตัดสินใจทันที ไม่ได้อยากดังหรืออะไรเลยแค่คิดว่าอยากมีผลงานของตัวเองเก็บไว้ฟัง เก็บไว้เป็น​ สตอรี่ว่าทำอะไรมาบ้าง จนตอบตกลงทำเพลงเเรกออกมา คือเพลงเสียงครวญจากสวนยาง โดยมีป๋าวัฒน์ เป็นคนให้โอกาสและคอยซัพพอร์ตทุกอย่าง วันนั้นอาศัยรถพ่อป๋อง ณปะเหลี่ยนเพิ่อลงไปทำเพลงที่หัวหินะบ้าน น้าชัย สานุวัฒน์ ตอนนั้นดีใจมาก อย่างบอกไม่ถูก เจอผู้ใหญ่ใจดีหยิบยื่นโอกาสให้คอยสอนคอยแนะนำเพราะนิวร้องเพลงได้แต่ไม่ได้เก่งหรือเพราะเลย หลังจากปล่อยเพลงออกมาก็มีคนมาติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆรู้จักนิวมากขึ้นเรื่อยๆ

และมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามางานก็เยอะขึ้น ส่วนเรื่องเรียนก็สอบผ่านและเรียนจบตามหลักสูตรในที่สุดหลังจากเรียนจบ นิวก็ทำงานเป็นนางแบบบ้าง รับงานถ่ายเอ็มวีบ้างร้องเพลงบ้าง แต่กิจการขายออนไลน์ก็ดีขึ้นเรื้อยๆ พอเรียบจบปั๊บ ด้วยความที่เป็นคนชอบถ่ายคลิปร้องเพลงลง วันรับปริญญาเลยมีเซอร์ไพรส์พ่อกับแม่พูดความในใจถึงพี่ชายที่อยู่ในเรือนจำ​ เพราะที่​ (โพสต์ลงไปกะจะเก็บไว้แจ้งเตือน​ จะเก็บไว้ให้พี่ชายดูตอนพ้นโทษ แต่ก้อเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งในชีวิต ที่ มีหลายเพจหลายเว็ปไซต์นำไปเขียนข่าว มีสื่อโทรมาสัมภาษณ์ รวมทั้งการแชร์คลิปที่ลงไปแบบเยอะมากๆ​ ยอดวิวคนดูเป็นล้านทำให้มีคนรู้จักนิวมากขึ้น ตามมาอุดหนุนสินค้านิวมากขึ้น จ้างงานนิวมากขึ้น ทำให้นิวพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง และก็ไม่รอรีที่จะไปสมัครเรียนปริญญาโทอีกใบ​  เพราะตอนป.ตรี นิวไม่เคยได้มีโอกาสเข้าเรียนเลยทำแต่งานอย่างเดียว ก็เลยเลือกที่จะเรียนต่อและทำงาน ต่อไปเรื่อยๆ ยังคงเป็นแม่ค้าเหมือนเดิม กลับบ้านก้อกรีดยางเหมือนเดิม แค่เหนื่อยน้อยกว่าเดิม มีงานร้องเพลงเพิ่มขึ้น ป๋าวัฒน์ก็ ป้อนเพลงให้ร้องเรื่อยๆ เพลงต่อมาชื่อเพลง. รอไม่ไหว และ มาต่อด้วยคนไกลใจเดิม และมีผลงานอื่นๆ…….

ใช้เวลาเรียน ปริญญาโทจบภายใน 1 ปีเต็มจนตอนนี้จบปริญญาโท ในคณะรัฐศาสตร์ สาขาสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ที่​ ม.รามคำแหง

อาชีพทุกอาชีพล้วนมีเกียรติทุกๆคนที่ทำอาชีพ​นั่นๆ​ คือเค้าเลือกเลือกแล้วที่จะทำเพราะเค้ารักอาชีพนั้นถึงเลือกที่จะทำทุกอาชีพล้วนมีเกียรติ เพียงเราไม่รังเกียจในสิ่งที่เราทำสักวันหนึ่งสิ่งที่เราเพียรทำจะกลายเป็นความภาคภูมิใจ นิวภูมิใจกับทุกๆอาชีพที่ทำให้นิวมีวันนี้

นิว ยังฝากถึงน้องๆและผู้คนที่กำลังลำบากแต่ฝันไกล  กำลังใจหาได้จากคนรอบข้าง แต่ความเข็มแข็งเราต้องสร้างด้วยตัวเอง

ในโลกนี้ ไม่มีความพยายามไหน ที่ไม่ให้ผลตอบแทน ทุกสิ่งมีผลตอบแทนเสมอ บางสิ่งบางอย่างต่อให้มีเงินล้านก็ไม่สามารถซื้อประสบการณ์ ความอดทนให้ตัวเราเองได้

นิวขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยนะค่ะ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคหรือปัญหาอะไรในชีวิตจนทำให้คุณรู้สึกท้อ และอยากจะทิ้งความฝันไว้นั้นไว้กลางทาง ด้วยคำว่า​ ”ฉันเหนื่อยเหลือเกิน” ให้คิดถึงคนข้างหลังคิดถึง พ่อแม่ คนที่รักเรา แล้วเราจะรู้สึกมีพลังลุกขึ้นเดินต่อ.

ให้เราเป็นคนที่มีความอดทนเวลาเราเจอปัญหา…ให้ความเหนื่อยล้าเป็นตัวขับเคลื่อนให้เราประสบความสำเร็จ …. สู้ๆนะค่ะ

นิว มาริษา
(ดอกหญ้ากลางกรุง)

ช่องทางติดต่อน้องนิว https://www.facebook.com/nongnew.narakka


ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม

 

youtube : https://www.youtube.com/channel/UCIHqmGPz2FcHjXik4zYJ9Ww

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน