อดีตกำนันขนไม้พะยูง ในพื้นที่จันทบุรี และข้าราชการกัมพูชา ทำหน้าที่ขับรถนำ เตรียมนำรถขนไม้พะยูง 42 ท่อน ส่งขายนายทุนต่างชาติที่ชายแดนกัมพูชา
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดจันทบุรี นำโดยพันตำรวจตรี ธียาฌพัตท์ รังสิพรามณกุล สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ วางกำลังไล่ล่าติดตามรถต้องสงสัยตามที่มีสายข่าวรายงานว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูง ส่งขายข้ามประเทศ โดยมีการตบตาเจ้าหน้าที่ด้วยการนำไม้พยูงซุกซ่อนอยู่ในสับปะรดที่วางทับมาด้านบน หลังจากรับแจ้งจึงเฝ้าติดตามรถยนต์กระบะนิสสัน นาวาร่าสีส้ม หมายเลขทะเบียน กบ 2568 จันทบุรี ซึ่งเป็นรถที่สายรายงานมาว่า เป็นรถนำ เพื่อเคลียร์เส้นทาง และคอยสังเกตุเจ้าหน้าที่ โดยจะมีรถยนต์กระบะนิสสัน สีเทา หมายเลขทะเบียน 2 ฒง 4176 กรุงเทพมหานคร บรรทุกสับปะรดมาเต็มคันขับตามมา มุ่งหน้าผ่านไปยังด่านเขาเกลือ ในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
จากนั้นเวลา 02.00 น. รถเป้าหมายได้เดินทางขึ้นไปยังด่านเขาเกลือ ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานให้ช่วยปิดด่านสกัดจับรถนำ และตัดสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อไม่ให้ติดต่อกันได้ จนรถที่บรรทุกไม้พะยูงขับขึ้นมาบนด่าน เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมจับกุม และนำตัวคนขับรถและแฟนสาวที่นั่งด้านข้างลงมา เพื่อทำการตรวจค้นตัว ตรวจสอบพบไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ใต้กองสับปะรดถึง 42 ท่อน จึงทำการตรวจยึดไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรโป่งน้ำร้อน ทราบชื่อคนขับภายหลัง คือนายพรพรหม พวงสุวรรณ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/18 ถนนจันทคามวิถี ตำบลตลาด อำเภอเมืองจันทบุรี และสารภาพว่าเพิ่งทำการรับจ้างขนไม้พะยูงครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยจะได้ค่าจ้าง 10,000 บาทถ้า หากนำไม้ไปส่งให้กับนายทุนที่ชายแดนกัมพูชาฝั่งอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วสำเร็จ ส่วนรถที่ขนไม้มานั้นเป็นรถที่ผู้ว่าจ้างเตรียมไว้ให้ ตรวจสอบรถยนต์กระบะนิสสัน นาวาร่าสีส้ม หมายเลขทะเบียน กบ 2568 จันทบุรี ซึ่งเป็นรถขับนำ พบชายจำนวน 3 คน ทราบชื่อต่อมาคือ MR.SAMBAT TUM อายุ 37 ปี สัญชาติกัมพูชาเป็นคนขับรถ และยังทำงานราชการในประเทศกัมพูชาด้วย รายที่ 2 คือ นายอิทธิโชติ เชิดชู อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ที่ 5 ตำบลตะกาดเง้า อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นผู้ติดต่อหาซื้อไม้พะยูงจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และระยอง ส่วนนายพงศกรณ์ กิจขาว อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 4 ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นอดีตกำนันในพื้นที่อำเภอท่าใหม่ เป็นผู้จัดหา และส่งนายหน้าเข้าไปดูไม้พะยูงในแต่ละจุด ซึ่งทั้งหมดรับสารภาพและจำนนต่อหลักฐานที่มีการคุยกันผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ หากไม้พะยูงชุดนี้สามารถผ่านประเทศไทยไปได้จะมีมูลค่าหลายล้านบาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: