จันทบุรี-จังหวัดจันทบุรีขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกรวม 11 โครงการ งบประมาณกว่า5พันล้านบาทเน้นพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนให้เป็นประตูเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
การเดินทางมาตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ภาคตะวันออกจังหวัดจันทบุรีและตราด นำโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 5 ก.พ. โดย ประมาณ 14.30 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางจากจ.ตราด มาถึง จ.จันทบุรีเวลาประมาณ14.30น. หลังจาและพบผู้นำท้องถิ่นภาคตะวันออกและเยี่ยมชมหอจดหมายเหตุแห่งชาติจันทบุรี จากนั้นประมาณ 16.00 น.นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยี่ยมชม ชุมชนริมน้ำจันทบูร เยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวบ้าน 3 วัฒนธรรม ไทย – จีน – ญวน และเวลา 18.00 น.นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก ที่ห้องแกรนด์บอลลูมโรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท
การเดินทางมาตรวจราชการและประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ จังหวัดจันทบุรี ได้ขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกรวม 11 โครงการ งบประมาณ 5,137,297,700 บาท ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนให้เป็นประตูเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง สาย 317 เพื่อเชื่อมโยงระหว่างภาคยังไม่แล้วเสร็จให้แล้วเสร็จตลอดทั้งสายคือระหว่างบ้านพังงอน – บ้านเขาแหลม ระยะทางประมาณ 52 กม.งบประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท
2.โครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง หมายเลข 3193 เชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาระหว่างบ้านป่าวิไล ถึง ด่านชายแดนบ้านแหลม ระยะทางประมาณ 10 กม.งบประมาณ 300 กว่าล้านบาท
3. โครงการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อสนับสนุนส่งเสริมพื้นที่เศรษฐกิจชายแดน การค้า การท่องเที่ยว และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน หน่วยงานที่รับผิดชอบคือการประปาส่วนภูมิภาค งบประมาณ 180 กว่าล้านบาท
- มาตราฐานสินค้า-ท่องเที่ยว
4.โครงการปรับปรุงมาตรฐานสินค้าและธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว พัฒนาทางหลวงหมายเลข 3298 เขาไร่ยา – แพร่งขาหยั่งงบประมาณ 300 กว่าล้านบาท
5.โครงการพัฒนาภาคตะวันออกให้เป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล เช่น การพัฒนาแหล่งน้ำและกระจายน้ำ ( นอกเขตชลประทาน ) อาทิ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรฝายบ้านบ่อยาง 2
6. โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ ระยะ 2
7.โครงการ Complex และศูนย์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพสินค้าการเกษตรภาคตะวันออก องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีงบประมาณ 300 กว่าล้านบาท
8. โครงการเร่งแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติที่มีความวิกฤตและจัดระบบการบริหารจัดการมลพิษให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย โครงการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ อ.แก่งหางแมว,สอยดาว,เขาคิชฌกูฏ และ อ.โป่งน้ำร้อน งบประมาณ 130 ล้านบาท
9.โครงการแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์แบบบูรณาการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว งบประมาณ 167 กว่าล้านบาท
10. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านอุบัติเหตุฉุกเฉินและโรคหัวใจเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี งบประมาณ 750 ล้านบาท
11.โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการจัดบริการทางสังคมให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างมีคุณภาพ รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี งบประมาณ 58 ล้านบาทเศษ
อย่างไรก็ตาม การขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกของจังหวัดจันทบุรีทั้ง 11 โครงการ เป็นเพียงโครงการที่จังหวัดจันทบุรีนำเสนอผ่านรัฐบาล ซึ่งการอนุมัติจะต้องผ่านขั้นตอนตามความจำเป็นและความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และเป็นไปตามระเบียบราชการต่อไป.
