รถตู้รับจ้างส่งแรงงานชาวกัมพูชา ชนท้ายรถบรรทุก ก่อนเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางซ้ำทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีทารกวัย 3 เดือนเสียชีวิตคาตักแม่
หลังจากรับแจ้งจึงประสานรถโรงพยาบาลใกล้เคียง และทีมแพทย์เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานนำรถอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าทำการงัดซากรถ เพื่อช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกมา ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการช่วยเหลือออกมาจากตัวรถและปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาล เมื่อผู้ได้รับบาดเจ็บรายแรกออกมา พบว่าที่ตักของผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังไม่สามารถนำออกมาได้นั้นมีร่างของเด็กทารกเพศชายวัย 3 เดือนนอนอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่พยายามเร่งนำร่างออกมา ตรวจสอบแล้วพบว่าเด็กชายได้เสียชีวิตไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบช่วยกันนำตัวแม่ที่ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วนเนื่องจากที่โคนขาด้านขวามีแผลฉกรรจ์จากการถูกเหล็กท้ายรถบรรทุกเสียบ และถูกคอนโซลรถบีบอัดร่างอยู่
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่า รถที่เกิดเหตุนั้นเป็นรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง หมายเลขทะเบียน 33-8254 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้รับจ้างของนายวรเชษฐ์ โพธิ์ษาจันทร์ อายุ 47 ปี ด้านในมีแรงงานชาวกัมพูชาโดยสารมาจำนวน 14 สอบถามเจ้าของรถซึ่งเป็นคนขับทราบว่า แรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด 14 คน ขึ้นรถมาจากกรุงเทพมหานครเมื่อเวลาประมาณตี 1 มุ่งหน้าไปด่านชายแดนบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เพื่อกลับบ้านฝั่งกัมพูชาช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์
แต่ระหว่างขับมาถึงที่เกิดเหตุ คนขับมองไม่เห็นรถบรรทุกลังกระดาษใส่ทุเรียนที่วิ่งอยู่ข้างหน้า ทำให้ชนเข้ากับท้ายรถอย่างจัง ก่อนที่รถจะเสียหลักพุ่งลงข้างทางไปชนต้นไม้ ทำให้หญิงชาวกัมพูชา 2 คน และเด็กชายวัย 3 เดือนที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้รับบาดเจ็บติดภายในและเสียชีวิต ส่วนผู้ที่โดยสารมาได้รับบาดเจ็บอีก 6 ราย รวมแล้วเหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 8 ราย เสียชีวิต 1 ราย
ด้านนายวิเชียร ปลื้มรัก อายุ 42 ปี คนขับรถบรรทุกเล่าว่า ตนขับรถที่บรรทุกลังกระดาษมาเต็มคันเพื่อจะนำไปส่งที่ล้งทุเรียนในพื้นที่ตลาดบ้านเนินสูง ขับอยู่ในช่องทางด้านซ้าย อยู่ดีดี ก็รู้สึกเหมือนรถถูกชนท้าย ตนจึงชะลอรถเข้าข้างทางและลงมาดู พบว่า ท้ายรถของตนนั้นถูกชน ส่วนรถคันที่ชนนั้นเป็นรถตู้ได้พุ่งไปชนกับต้นไม้ข้างทางซ้ำอีก จนมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนคนขับรถทั้ง 2 คัน พร้อมทั้งบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และจะเชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรท่าใหม่ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: