พระนครศรีอยุธยา-เปิดเรื่องราวชาวบ้านตำบลบ้านหลวง บ้านสาคลี อำเภอเสนา บูชารูป ”เสือดอกรัก” โจรภูธร บนบานสารกล่าวสำเร็จ ชี้ เป็นโจรมีคุณธรรมไม่เคยสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่
บ้านสาคลี ตำบลบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ติดต่อตำบลบ้านหลวง อำเภอเดียวกัน มีเรื่องเล่าขานกันว่าสองตำบลนี้และใกล้เคียง มีชาวบ้านนำภาพถ่ายและภาพวาดของโจรที่เสียชีวิตไปแล้วมากราบไหว้บูชา เนื่องจากคนเก่าคนแก่บอกว่าเป็นโจรที่มีคุณธรรม แต่ถึงอย่างไร คำว่าโจร ก็คือคนร้ายที่กระทำผิดกฎหมายนั่นเอง แต่ทำไมผู้คนละแวกนั้นจึงนับถือ
แหม่ม เสน่ห์เทียนบูชา ซึ่งมีศักดิ์ เป็นหลานของ ”เสือดอกรัก” หรือนายดอกรัก เทียนบูชา โจรที่มีชื่อเสียงเมื่อประมาณรัชกาลที่ 5 หรือประมาณ 200 ปีเห็นจะได้ เล่าให้ฟังว่า เรื่องของเสือดอกรัก มีการเล่าขานสืบทอดต่อกันมารุ่นต่อรุ่น จากชวดมารุ่นปู่ย่าตายาย มาจนรุ่นพ่อ รุ่นหลาน โดยไม่มีหลักฐานอ้างอิงหลงเหลืออยู่ มีเพียงภาพถ่ายของ”เสือดอกรัก” ขนาดโปสการ์ด ที่มีผู้บันทึกเอาไว้สมัยนั้นเป็นภาพเก่าขาวดำ ในภาพจะเห็นเสือดอกรักเสียชีวิตในลักษณะยืนพิงต้นกระทุ่ม ซึ่งเป็นต้นไม้กลางทุ่งนา มีเชือกรัดอยู่รอบเอวอย่างแน่น มีปืนลูกซองยาวที่พานท้ายปืนวางลงดิน ปากกระบอกชี้ขึ้นทอดยาวมาตามลำตัว ขาข้างซ้ายของเสือดอกรักบิดงอเล็กน้อย บ่งบอกตามคำบอกเล่าว่าเป็นการใช้นิ้วเท้าข้างซ้ายเหนี่ยวไกปืน ในขณะที่ปากของเสือดอกรักอมปากกระบอกปืนไว้
ช่วงหลังภาพเก่าที่มีผู้บันทึกไว้ แล้วอัดแจกจ่ายให้คนในหมู่บ้านเพื่อนำไปบูชา ได้ชำรุดเสียหายไป โดยเฉพาะช่วงน้ำท่วม จึงมีการวาดภาพตามรูปเดิมเอาไว้ เพื่อให้ภาพคงอยู่ต่อไป นางบอกด้วยว่า สมัยที่พ่อของตนยังมีชีวิตได้เล่าให้ฟังว่า เสือดอกรัก มีอายุประมาณ 30 ปีเศษ เป็นคนรูปร่างสันทัด หน้าตาหล่อ แต่นิสัยมุทะลุ โกรธง่าย แต่ก็เป็นคนมีเหตุผล เสือดอกรัก ใช้ชีวิตอยู่ที่ตำบลบ้านหลวงเหมือนคนทั่วไป มีอาชีพทำไร่ทำนา จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนร้ายเข้าไปขโมยควาย และคันไถนา เสือดอกรัก ยิงปะทะกับคนร้ายเสียชีวิต แล้วออกตามล่ากลุ่มคนร้ายที่เหลือ จนกลายเป็น”เสือดอกรัก” มีเพื่อนพ้องบริวารออกไปปล้นนอกพื้นที่ บางครั้งก็เอาเงินที่ได้จากการปล้นมาให้คนจนในพื้นที่ตนเอง ที่สำคัญเสือดอกรักปล้นพวกพ่อค้า คนมีเงินที่เห็นแก่ตัว จนเป็นรักของคนในบ้านหลวง และย่านสาคลี
สอดคล้องกับคำบอกเล่าของพระครูวิชัย พลากร เจ้าอาวาสวัดมารวิชัย ต.บางนมโค อ.เสนา ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลน บอกว่าตอนเด็กๆพ่อแม่ก็เล่าให้ฟังเรื่องเสือดอกรัก น่าจะอายุมากกว่าเสือดำ เสือใบ และเสือมเหศวร คนเก่าแก่ของบอกเสือดอกรักมีวิชากำบังตัว เวลาหลบตำรวจจะเข้าไปในป่ากกแล้วไม่มีใครค้นหาเจอ นอกจากนี้ยังมีวิชาอยู่ยงคงกระพัน ยิงไม่เข้า แต่ด้วยความที่เป็นคนอารมณ์ร้อน ครั้งหนึ่งเดินเข้ามาในท่าขายควายของหมู่บ้าน สุนัขกำลังเห่าเสียงดัง เสือดอกรักบอก ”เดี๋ยวยิงทิ้งซะเลย” ขณะนั้นมีพ่อค้าชาวจีนยืนอยู่พูดขึ้นมาว่า” อย่ายิงสุนัขเลย ถ้าอยากยิง ยิงอั๊วดีกว่า” สิ้นเสียงพูด เสือดอกรักก็หันกระบอกปืนสั้น เหนี่ยวไกตรงไปที่ร่างของพ่อค้าชาวจีนล้มคว่ำลงทันที ชื่อของเสือดอกรัก ในมุมของโจรร้ายก็กระฉ่อนออกไป จนไม่มีใครยุ่ง
สมพงษ์ แย้มคงเมือง อดีตกำนันตำบลบ้านหลวง ยังได้เล่าถึงความเป็นเสือที่ไม่ไว้ใจใคร เมื่อเสือดอกรักได้พบกับ นายพร กล่ำภากร กำนันสมัยนั้นที่รู้จักกัน เกิดการเกี่ยงกันในการเดินข้ามสะพานไม้ไผ่ว่าใครจะเดินหน้าเดินหลัง เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจกัน จนที่สุดนายพร เดินนำหน้า เสือดอกรัก ก็ยิงเข้าข้างหลังนายพร แต่กระสุนไม่ระคายผิว เสือดอกรักถึงกับยกมือไหว้ ซึ่งทำนองเดียวกัน เสือดอกรัก ก็เคยถูกยิงแต่ไม่เป็นอะไร
ในที่สุดวันที่ทางการติดตามจับกุมเสือดอกรักก็มาถึง เสือดอกรักกับสมุนวิ่งลัดไปตามทุ่งนา จนถึงต้นกระทุ่มยืนตาย เสือดอกรักไล่ลูกน้องหนีไปทั้งหมด ขณะที่ตำรวจก็ปิดล้อมรอบบริเวณ เขารู้ว่าหากต่อสู้กับตำรวจต่อไป ตำรวจก็ต้องตายเพิ่มมากขึ้น เพราะเสือดอกรักยิงไม่ตาย จึงตัดสินใจผูกตัวเองกับต้นไม้ แล้วเอาพานท้ายปืนทิ่มลงดิน เอาปากกระบอกชี้ขึ้น ใช้ปากคาบปากกระบอกปืน นิ้วเท้าเหนี่ยวไก ปลิดชีพตัวเอง อย่างไรก็ตาม สุรินทร์ กิจนิตย์ชีว์ ปราชญ์ชาวบ้านอดีตครูใหญ่โรงเรียนสาคลีวิทยา คนเก่าคนแก่ในพื้นที่ก็บอกว่าเรื่องราวของเสือดอกรักถึงจะไม่เป็นที่โด่งดัง แต่ก็เป็นเรื่องราวที่เล่าสืบขานต่อกันมา มีผู้คนในแถบบ้านหลวง มารวิชัย สาคลี บางนมโค นำรูปไปบูชาจนทุกวันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: