พระนครศรีอยุธยา- งง สำนักงานพพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่งจนท.ไปรังวัดแนวเขตใหม่ ถือวิสาสะบุกเข้าบ้านไม่ขออนุญาต แถมทุบข้างฝาเสียหาย เจ้าของบ้านเข้าแจ้งความเตรียมเรียกตัวดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 กค นายไชยวัฒน์ พรมแตง อายุ 36 ปีอยุ่บ้านเลขที่ 98/7 หมู่ 3 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าพบ พ.ต.ท.จักรพันธ์ ธูปะเตมีย์ สว.งานสอบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา โดยระบุว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 14 กค ได้มีนายณรงค์ มีผดุง อายุ 75 ปีบ้านอยู่ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีบัตรประจำตัวออกโดยกรมที่ดิน เป็นพนักงานรังวัดที่ดินเอกชน พร้อมกับพวกจำนวน 4 คน เข้ามาบริเวณบ้านที่พักอาศัยของตน และทำการวัดแนวพื้นที่บ้าน ที่ตนอาศัยอยู่ และยังได้ทำการทุบบริเวณข้างฝาผนังบ้านและพื้นทางเดินหน้าบ้าน เพื่อทำการฝังหมุดที่ดินระบุเลข พ 5077 ที่พื้นที่ ซึ่งไม่มีคนอยู่บ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ตนและครอบครัวกลับมาพบพอดี นายณรงค์ จึงดึงหมุดอีกตัวออกไป 1 ตัวแต่ยังคงเหลืออยู่อีกหนึ่งตัว
เมื่อสอบถามนายณรงค์ ได้แสดงบัตรประจำตัวและบอกว่าเป็นพนักงานรังวัดเอกชนมาทำการรังวัดแนวเขตที่ดินของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่ดินที่ตนได้เช่าอาศัยปลูกบ้านอยู่ปัจจุบันมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว โดยที่นายณรงค์ อ้างเพียงว่าได้รับหน้าที่มาเพื่อรังวัดแนวเขตใหม่เท่านั้น แต่ด้วยความที่ไม่มีเจ้าของบ้านอยู่ และไม่มีหนังสือแจ้ง โดยได้อ้างว่าได้ประสานกับจนท.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อนายวิโรจน์ สุภาเสพ ไปแล้ว แต่ทางเจ้าของบ้านไม่ได้รับการติดต่อ จึงจำเป็นต้องมาแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สิน ซึ่งนายณรงค์ หลังจากที่เจ้าของบ้านกลับมาก็รีบพากันออกไปทันที ซึ่งจนท.จะได้ออกหมายเรียกตัวตามที่อยู่มาสอบสวนดำเนินคดี
ด้านนายประดับ โพธิกาญจนวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้นายณรงค์ ได้นำหนังสือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาเพื่อขอเข้าพื้นที่ดำเนินการรังวัดแนวเขตใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1-22 มิ.ย. ในเขตเทศบาลเมืองอโยธยาและเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และก็ไม่ได้มาพบอีก จนกระทั่งทราบว่าไปบุกรุกและทุกฝาผนังบ้านของประชาชนเสียหาย ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง ตนจะได้เรียกตัวสำนักงานพระพุทธศาสนาพระนครศรีอยุธยา ที่นายณรงค์กล่าวอ้างถึงมาสอบสวน ซึ่งหาพบว่าไม่ถูกต้อง และมีการละเมิดสิทธิใดๆ ก็ให้เป็นเรื่องทางกฎหมายดำเนินการต่อไป
