พระนครศรีอยุธยา-คนงานก่อสร้างตกงานหลังวิกฤตโควิด-19 น้อยใจไม่ได้เงินเยียวยา 5 พันบาท แถมเมียป่วยออกไปหาหมอไม่ได้ติดเคอร์ฟิว เพราะควันจากโรงอิฐ ร้องให้รัฐเร่งช่วยเหลือ อดีตส.ส.กรุงเก่าขึ้นกระเช้าเกลี้ยกล่อมยอมลง น้ำใจหลั่งไหลช่วยนับหมื่น ผ.อ.ศูนย์ดำรงธรรมขอร้องอย่าเลียนแบบ
เมื่อเวลา 8.45 น.วันที่ 26 เม.ย. นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา รับรายงานว่ามีประชาชนจะกระโดดสะพานปรีดีธำรง ข้ามแม่น้ำป่าสัก จึงมอบหมายให้ นายนิวัฒน์ ภาตะนันท์ รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนางสยุมพร กุสุม หน.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
พบว่าบริเวณโครงสะพานด้านบนมีชายทราบชื่อนายสมชาย ธารีสิทธิ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 71 หมู่ 7 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา นั่งอยู่ด้านบนสุด โดยมีรถกระเช้าของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาจอดอยู่ในฝั่งของสะพานสมเด็จพระเอกาทศรถ โดยชายดังกล่าวร้องขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจนท.ตำรวจและอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูและพุทไธศวรรย์ ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพยายามเกลี้ยกล่อม แต่ชายดังกล่าวไม่ยอมลงมา จนกระทั่งมีนายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล อดีตส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ซึ่งบ้านอยู่ด้านล่างใกล้กับสะพานได้ขอขึ้นไปพูดคุย และบอกว่าเป็นพรรคพวกกัน จึงขึ้นรถกระเช้าไปเจรจา ไม่ถึง 10 นาทีชายดังกล่าวตัดสินใจลงมาด้านล่าง พบกับเจ้าหน้าที่
นายสมชายกล่าวว่าตนมีอาชีพก่อสร้าง เดือดร้อนเรื่องควันจากโรงอิฐที่ ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา ส่งควันรบกวน จนภรรยาและญาติๆไม่สบาย และในคืนที่ผ่านมาก็ไม่สามารถพาภรรยาออกไปหาแพทย์ที่รพ.พระนครศรีอยุธยาได้ เนื่องจากติดเคอร์ฟิว อีกทั้งยังตกงานเนื่องจากไม่มีงานทำในช่วงนี้ และยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 5 พันบาทจากรัฐบาลด้วย
ต่อมานางสยุมพร หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 5 พันบาท และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา อยู่ต่างอำเภอทราบข่าวได้ประสานกับนางนลินี ด่านชัยวิจิตร ภรรยามอบเงินช่วยเหลือให้นายสมชาย 1 หมื่นบาท ในนามโรงแรมกรุงศรีริเวอร์ ที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ อีกทั้งนายสุรเชษฐ์ ที่ขึ้นไปเกลี้ยกล่อมก็มอบเงินให้อีก 1 หมื่นบาทด้วย
นางสยุมพร เปิดเผยว่ากรณีของนายสมชายนั้น ได้เคยมาร้องเรียนทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่องกลิ่นควันจากโรงอิฐที่อยู่ใกล้บ้าน และเคยขู่จะกระโดดที่ศูนย์ราชการมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งทางผวจ.รับปากไปตรวจสอบและดูแลให้ อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข แต่ก็มาปีนสะพานปรีดีธำรง เพื่อเรียกร้องเรื่องอีก ซึ่งกำลังดูว่าจะช่วยเหลืออย่างไรต่อไปนอกเหนือจากเรื่องความเดือดร้อนจากควันโรงอิฐ จะต้องตรวจสอบเรื่องสิทธิ์การช่วยเหลือเงินเยี่ยวยาด้วย อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ประชาชนที่มีความเครียดเรื่องเงินเยียวยา มาเรียกร้องเช่นนี้ หากมีปัญหาก็ให้ไปพบที่ศูนย์ดำรงธรรมได้ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: