พระนครศรีอยุธยา – กก.แก้ปัญหาช้างเผย ”จุรินทร์” รมต.พาณิชย์ช่วยผู้ประกอบการช้าง ลงนามเห็นชอบให้ช้างเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้สถาบันการเงินได้ หลังประธานกรรมาธิการท่องเที่ยวช่วยผลักดันมานานนับเดือน
จากการที่สถานประกอบการหลายประเภทปิดตัวลงในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะธุรกิจปางช้างซึ่งเป็นธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการและต้องหยุดกิจการลง แต่ต้องรับภาระในการเลี้ยงดูช้างและควาญช้างที่ต้องดูแลช้างอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ทำให้นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย ผู้จัดการวังช้างอยุธยาแลเพนียด เลขานุการมูลนิธิพระคชบาลและในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาช้างแห่งชาติ ภาคกลาง ร่วมกับคณะกรรมการช้างและผู้ประกอบการปางช้างทั่วประเทศ ได้มีการประชุมหารือในการหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการช้าง ไม่ว่าจะเป็น ธกส. กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และผู้เกี่ยวข้องตามลำดับ
นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย หลังจากที่ตนได้ไปยื่นหนังสือให้กับนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยว และได้เชิญมาเป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวปางช้างจากทั่วประเทศ ธ.ก.ส. ที่ร้านอาหารเดอริว่าอโยธยา โดยมีนายธนกฤต กิตติธรรมากูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา นายมานัส ทรัพย์มีชัย กรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา ในเรื่องการรับตั๋วรูปพรรณช้งเป็นหลักประกันการชำระหนี้ ตามพระราชบัญญัติหลักประกัน ทางธุรกิจ พ.ศ.2558 เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการปางช้างทั่วประเทศ อันจะส่งผลดีต่อการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยในภาพรวม ซึ่งนายสุรศักดิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว ได้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว และมีหนังสือถึงสถาบันการเงินหลัก ได้แก่ ธ.ก.ส. ในการขอความอนุเคราะห์ให้ผู้ประกอบการปางงผู้เลี้ยงช้างกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบกิจการ ซึ่งคณะกรรมาธิการการท้องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า ควรมีมาตรการและแนวทางในการช่วยเหลือทางด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการปางชังผู้เลี้ยงช้างทั่วประเทศ จึงขอให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรช่วเหลือทางการเงินในรูปสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ solf loan โดยใช้บุคคลค้ำประกันรายละไม่เกิน 1.5 แสนบาท และขอให้ปลอดการชำระเงินต้นและตอกเบี้ยไปจนถึงเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งการประชุมต่อมายังได้มีการเรียกร้องขอให้ใช้ช้างเป็นหลักประกันเงินกู้
ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ รมต.กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในหนังสือ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพิจารณา ตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 มาตรา 8 กำหนดทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันได้มีดังต่อไปนี้ (3) สังหาริมทรัพย์ที่ผู้ให้หลักประกันใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น เครื่องจักร สินคงคลัง หรือวัตถุดิบที่ใต้ในกรผลิตสินค้า ดังนั้นในกิจการปางข้าง “ยัง”ถือเป็นสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ สามารถมาเป็นหลักประกันการชำระหนี้ตามมาตรา 8(7) ได้ โดยการพิจรณาสินชื่อรวมทั้งการพิจารณารับทรัพย์สินใดเป็นหลักประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งเป็นผู้กำหนด และปัจจุบันมีสถาบันการเงินรับ “ช้าง” มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจโดยใช้ตั้วรูปพรรณช้าง (สผ.) เป็นเอกสารอ้างอิงในการจดทะเบียนแล้วจำนวน 21 เชือกคิดเป็นมูลค่าจำนวน 36 ล้านบาท
ซึ่งก่อนหน้านี้มีการพูดถึงปัญหารับช้างเป็นหลักประกันเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากช้างไม่มีมูลค่าในการที่จะนำมาค้ำประกัน เนื่องจากแตกต่างจากปศุสัตว์อื่น ซึ่งวันนี้เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เห็นชอบและลมนามแล้ว ทำให้ชาวช้างผู้ประกอบการทั่วประเทศมีความหวัง ซึ่งหลังจากนี้ประธานกรรมาธิการท่องเที่ยวจะได้ประสานกับสถาบันการเงิน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ดำเนินการกู้เงินตามขั้นตอน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศได้มีสภาพคล่องในการพัฒนากิจการการท่องเที่ยวต่อไป
