พระนครศรีอยุธยา-แม่ร้องสื่อช่วยตามหาลูกพร้อมเพื่อนคนไทยอีก 5 คน หายสาบสูญกลางทะเลไต้หวัน หลังเดินทางไปรับเรือเฟอรี่จากประเทศญี่ปุ่น จนป่านนี้ยังไร้วี่แวว ไม่รู้จะติดต่ออย่างไร
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 27 ตค ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.สุพิน ดอกเทียน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา ว่านายอชิรวิชญ์ เฮงสิริ อายุ 23 ปี ลูกชายของนางอัมพร เฮงสิริ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นนายท้ายเรือรับจ้างขับเรือเฟอรี่มาจากประเทศญี่ปุ่น มายังประเทศไทยได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ว่าแวว หลังจากที่ประสปเหตุเรืออัปปางในทะเลแถบไต้หวัน เมื่อประมาณวันที่ 24 ต.ค. พร้อมเพื่อนคนไทยอีก 4 คนรวมสูญหาย 5 คน และมีรอดชีวิต 5 คน ซึ่งทางครอบครัวรู้สึกเป็นห่วงไม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ จึงอยากให้สื่อช่วยประสานด้วย
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านบ้านของนางอัมพร เลขที่ 2/1 หมู่ 3 ต.บางซ้าย อ.บางซ้าย ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง สภาพเก่ามาก ภายในบ้านพบนางอัมพร แม่ของนายอชิรวิทชญ์ และน้องสาวของนายอชิรวิชญ์ และนายเกื้อ เฮงศิริ อายุ 48 ปีผู้เป็นพ่อและป่วยเป็นอัมพาต พร้อมด้วยญาติพี่น้องนั่งรอคอยฟังข่าวอยู่ นางอัมพร เปิดเผยว่านายอชิรวิชญ์ เป็นลูกชายคนเดียวมีน้องสาวอยู่ 1 คนกำลังเรียนชั้น ม.3 นายอชิรวิชญ์ เป็นคนที่ชอบการเป็นนายท้ายเรือ จนไปเรียนด้านการควบคุมเรือพาณิชย์นาวี จนจบการศึกษาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ช่วงฝึกงานที่ประเทศสิงคโปร์ ก็ส่งเงินมาบ้านตลอด เพื่อที่จะหาเงินซ่อมบ้านให้พ่อแม่ จนล่าสุดหลังรับประกาศนียบัตรไลน์มาบอกว่า ได้งานพิเศษรับจ้างไปนำเรือเฟอรี่จากประเทศญี่ปุ่น กลับมายังประเทศไทย โดยออกเดินทางจาประเทศไทยด้วยสายการบินเมื่อวันที่ 4 ต.ค. จากนั้น ก็ควบคุมเรือออกมาจากญี่ปุ่นทันที จนกระทั่งวันสุดท้ายเมื่อ 18 ต.ค.นายอชิรวิชญ์ บอกว่าเจอพายุใหญ่ จากนั้นก็หายไป ติดต่อกันไม่ได้ จนทราบข่าวจากเพื่อนที่ไปด้วยกัน ทั้งหมด 10 คนรอดมาได้ 5 คนบอกว่านายอชิรวิชญ์ประสปเหตุเรืออัปปางในทะเลแถบไต้หวัน และเพื่อนๆที่รอดชีวิตขณะนี้อยู่ในการดูแลที่ประเทศไต้หวัน จึงอยากให้ทางการช่วยประสานติดตามว่าลูกชายของตนรอดชีวิตหรือไม่ และเป็นอย่างไรบ้าง
ด้านน.ส.สุพิน ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่ารู้จักครอบครัวของนางอัมพรมานานแล้ว และทราบว่าลูกชายเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียน เพิ่งเรียนจบการเดินเรือหวังจะเอาเงินมาซ่อมบ้าน จึงรับจ้างไปนำเรือจากประเทศญี่ปุ่นกลับมาประเทศไทย แต่โชคร้ายเจอพายุเสียก่อน ตนจะได้รายงานให้ทางอำเภอทราบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: