พระนครศรีอยุธยา-พ่อเมืองกรุงเก่าเป็นห่วงมอบจัดหางานและแรงงานจังหวัดฯประสานกงสุลติดตามความคืบหน้ากรณีนายอชิรวิชญ์ เฮงสิริ พร้อมเพื่อนรวม 5 คนหายสาบสูญในทะเลไต้หวัน ขณะควบคุมเรือเฟอรี่จากประเทศญี่ปุ่นกลับไทย เปิดภาพสุดท้ายก่อนหายสาบสูญ
จากกรณีที่นางอัมพร เฮงสิริ ชาว ต.บ้างซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร้องผ่านสื่อให้ช่วยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามข่าวความคืบหน้าของนายอชิรวิชญ์ ลูกชายที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นพร้อมเพื่อน เพื่อนำเรือเฟอรี่กลับประเทศไทย โดยระหว่างทางเจอพายุทำให้เรืออัปปาง เมื่อวันที่ 23 ตค 63 ที่ผ่านมา โดยในเรือมีคนไทย 10 คนรวมทั้งนายอชิรวิชญ์ด้วย ปรากฏว่ารอดชีวิต 5 คน ส่วนนายอชิรวิชญ์กับเพื่อนรวม 5 คน หายสาบสูญกลางทะเล ซึ่งแม่และญาติมีความเป็นห่วง อยากจะทราบความคืบหน้าตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ตค นายสมยศ เกษสุวรรณ นายอำเภอบางซ้าย พร้อมด้วยนางณัชชารีย์ ศิรกิตติวรพงษ์ จัดหางานจังหวัดสุพรรณบุรีรักษาราชการแทน จัดหางานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางเพ็ญศิริ ประไพพิทยาคุณ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนแรงงานจังหวัดฯ ตัวแทนประกันสังคมจังหวัดฯ และนายชณทัต ปะทะมะภูวดล เดินทางมายังบ้านของนางอัมพร เฮงสิริ แม่ของนายอชิรวิชญ์ เพื่อมอบสิ่งของยังชีพ และให้กำลังใจกับครอบครัวของนางอัมพร ที่รอคอยฟังข่าวของลูก โดยมีผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านมาคอยให้กำลังใจด้วย
นางณัชชารีย์ จัดหารงานจังหวัดฯเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานกับทางกงศุลและกระทรวงต่างประเทศในการติดตามข่าวของนายอชิรวิชญ์ และเพื่อนคนไทยรวม 5 คนที่หายไปในทะเล ซึ่งทราบว่าขณะนี้ทางการไต้หวันหยุดการค้นหาแล้ว จะดูอีกครั้งก็ช่วงที่มีการกู้เรือ ส่วนเรื่องการช่วยเหลือญาติ กำลังตรวจสอบว่าจะได้รับเงินจากประกันที่ทำไว้กับบริษัทเรือหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นไม่พบรายชื่อของลูกเรือชาวไทยในระบบของบริษัทเรือ คาดว่าอาจจะเป็นการที่บริษัทข้างนอก มารับจ้าง โดยให้นายอชิรวิชญ์ และเพื่อนคนไทยเป็นผู้รับจ้างอีกทอดในการนำเรือกลับ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯและกระทรวงแรงงาน มีความเป็นห่วง ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกงสุล หรือกระทรวงการต่างประเทศ
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ตค. กรมตระเวนทางทะเลของคณะกรรมาธิการมหาสมุทรไต้หวัน รายงานว่า ได้รับสัญญานขอความช่วยเหลือจากเรือบรรทุกสินค้าที่จดทะเบียนในตูวาลู ซึ่งมีลูกเรือชาวไทยรวม 10 คน เกิดเหตุเรือล่มในน่านน้ำเมืองเกาสง จึงได้ส่งเรือลาดตระเวนทางทะเล 4 ลำและเรือช่วยเหลือ 4 ลำ ไปให้การช่วยเหลือลูกเรือ 5 คนที่สวมเสื้อชูชีพลอยคออยู่ จึงช่วยเหลือขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเมืองเกาสง และพบว่ามีอาการไม่หนัก 3 คนนำเข้าพักตามมาตรการกักตัวโควิด ส่วนอีก 2 คนคือนายวรเดช จันทร์ทอง และนายสิริพร โคตรสิริ ได้รับบาดเจ็บนำส่งรพ.เกาสง ซึ่งทางการไต้หวันดูแลผู้บาดเจ็บอย่างดี และติดตามค้นหาอย่างเต็มที่ และแสดงความเป็นห่วง แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบ ซึ่งล่าสุดว่าหยุดค้นหาแล้ว และจะทำการค้นหาจากการกู้ซากเรือต่อไป
