พระนครศรีอยุธยา-นายกเหล่ากาชาดให้กำลังใจครอบครัว พรชัย ลาภนิล ลิเกกาแฟโบราณ ขายมานาน 10 ปี พัฒนาสังคมฯ มอบเงินและถุงยังชีพ หลวงพี่แก่เผยเรื่องแปลก มีคนมายืมเงิน แล้วไปผูกคอตาย 3 รายแล้ว
เมื่อบ่ายวันที่ 3 มีค นางนวลจันทร์ แย้มศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยน.ส.นุชนารถ ประทีปธีระนันท์ รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฯ เดินทางไปยังวัดกล้วย ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบเงินและสิ่งของให้กำลังใจกับญาติของนายพรชัย ลาภนิล พ่อค้าขายกาแฟโบราณ ที่ผูกคอตัวเองเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ในห้องเช่าแห่งหนึ่งเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา มีจดหมายลาตายทิ้งเอาไว้ มีใจความว่า “”ช่วยนงค์ด้วยเรื่องเงินกู้ ผมเอามาลงทุนขายที่ร้าน เหนื่อยจัง ขอไปก่อนโควิดรอบนี้ผมจำนำหมดกู้เงินมาขาย ก็ขาดทุน เอาอัฐิผมกับลูกสาวไว้ที่เดียวกัน หลวงพี่แก่ เจ้าอาวาสวัดกล้วยผมไม่มีเงินไปขอท่านมาทำทุนผมไม่ได้ใช้ท่านเลย รถให้เขามายึดไป หมดแล้ว ลาก่อน ลิเกกาแฟไม่สู้ชีวิต” สร้างความหดหู่ให้กับประชาชนทั่วไป กลายเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก
จากการสอบถามญาติทราบว่าในอดีตผู้ตายเคยเป็นพระเอกลิเก และเป็นเจ้าของคณะลิเกชื่อ พรชัยวัฒนา ที่เคยโด่งดังในอดีตแต่ด้วยอายุที่มากขึ้นประกอบกับความนิยมดูลิเกลดน้อยลง จึงยุบคณะหันมาเปิดร้านกาแฟข้างวิหารพระมงคลบพิตร แหล่งท่องเที่ยว โดยแต่งชุดลิเกไปขายเพื่อเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยทุกเช้าผู้ตายจะมารับตนที่บ้านไปเปิดร้านกาแฟเพราะผู้ตายให้มาช่วยขาย ก่อนเกิดเหตุเช้านี้เห็นไม่มารับ จึงมาดูที่ห้องพบเป็นศพแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาเรื่องปัญหาการเงิน เพราะก่อนหน้านี้เคยบ่นให้ฟังว่าตั้งแต่แพร่ระบาดโควิด ขายของไม่ได้ไม่มีนักท่องเที่ยว จะขายได้แค่ช่วงวันหยุด นอกจากนี้ยังได้สมัครร่วมโครงการคนละครึ่ง และเราชนะ แต่ระบบโอนเงินเข้า ทำให้หมุนเงินใช้หนี้ไม่ทันบ่นเครียดอยากฆ่าตัวตาย จึงปลอบไปว่าให้อดทนเหมือนคำขวัญของร้านกาแฟที่ว่า “ลิเกกาแฟ คนสู้ชีวิต” กระทั่งมาพบว่าผูกคอตายดังกล่าว
หลวงพ่อแก่เปิดเผยว่า พรชัยเข้ามายืมเงินไปลงทุนขายก๊วยเตี๋ยว ซึ่งก็ทราบว่าเจ้าตัวไปขายแล้วไม่มีลูกค้า ทำให้เกิดความเครียด ประกอบกับถูกทวงหนี้ทุกวัน จนต้องตัดสินใจผูกคอตัวเอง อาตมาก็ตกใจมาก โดยก่อนหน้านี้ญาติของนายพรชัยก็เคยมายืมไปค้าขาย ก็ผูกคอตายเช่นกัน และยังมีคนมายืมเงินป่วยเป็นมะเร็ง เข้าใจว่าจะเกิดความเครียด ผูกคอตัวเองเสียชีวิต จึงเป็นเรื่องแปลกที่คนที่ยืมเงินแล้วไปฆ่าตัวตายในที่สุด รวม 3 รายแล้ว โดยตลอดทั้งวันมีพ่อค้าแม่ค้ามากราบไหว้ศพของนายพรชัยอย่างต่อเนื่อง
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 กค 55 ข้างหลังวิหารพระมงคลบพิตร สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและมีชื่อเสียงของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาจจะเงียบไปสักหน่อย แต่สิ่งที่คิดว่าเรียกความสนใจจากสายตานักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาได้ไม่น้อย ก็เห็นจะเป็นพ่อค้าขายกาแฟโบราณที่ชื่อ พรชัย ลาภนิล หรือพรชัย วัฒนา อายุ 51 ปีในวันนั้น ยืนขายกาแฟอยู่ไม่แตกต่างจากพ่อค้าแม่ค้าทั่วไป อดีตพระเอก และเจ้าของคณะลิเกพรชัยวัฒนาที่หลายคนในจังหวัดพระนครศรี อยุธยารู้จักกันดี แต่งกายในชุดลิเกสีแดงประดับชุดเลื่อมสวยงาม กำลังยืนร้องลิเกเป็นกลอนด้นสดๆ และยืนขายกาแฟด้วยท่าทางที่มีความสุข มีนักท่องเที่ยวและลูกค้ายืนรอซื้อกาแฟจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติชื่นชอบมายืนถ่ายภาพด้วยความสนใจ รวมจนถึงวันนี้ 10 ปีพอดี ไม่คิดว่าสุดท้ายจะมาคิดสั้น
พรชัย บอกว่าเริ่มแสดงลิเกมาตั้งแต่อายุ 15 ปี จนกระทั่งเป็นเจ้าของคณะ และประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และความนิยมลิเกของผู้ชมรวมทั้งแม่ยกพ่อยกหายไป จึงได้หันมาขายกาแฟโบราณที่ร้านค้าข้างวิหารพระมงคลบพิตร อยู่กับญาติซึ่งขายอาหารตามสั่ง หลังจากที่เลิกแสดงลิเกมาเป็นเวลา 3 ปีแล้วก็ตัดสินใจที่จะแต่งชุดลิเกอีกครั้งทุกวันเสาร์ เพื่อเป็นการเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ผ่านไปมา ที่สำคัญเขาต้องการบอกกับทุกคนว่าอาชีพดั้งเดิมของเขาจริงๆ คือศิลปินลิเก และถือเป็นการสร้างสีสันให้กับแหล่งท่องเที่ยวด้วย ที่อยากจะฝากเอาไว้คือก่อนหน้านี้บ้านถูกน้ำท่วม เสื้อและชุดลิเกที่มีอยู่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ต้องไปยืมชุดของเพื่อนมาใส่ หากใครที่เคยเล่นลิเกแล้วไม่ได้ใส่ ก็อยากที่จะขอเพื่อจะได้มาใส่ให้นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ และคนทั่วไปได้คิดถึงลิเก เป็นการรักษาศิลปะการแสดงของไทยต่อไป ก็ถือว่าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก พร้อมๆ กันทั้งสองอย่างคือชอบที่จะเป็นลิเก และชอบที่จะขายกาแฟ ใครผ่านไปก็อย่าลืมอุดหนุน ที่สำคัญคงจะช่วยทำให้บริเวณนั้นมีสีสันอีกเยอะทีเดียว และกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
