ผบช.ภ.1 แถลงข่าวจับ ส.ต.อ.โหด ฆ่าเมียเผานั่งยาง ขอโทษที่ลูกน้องใช้ความรุนแรง แนะทุกโรงพักสนใจแก้ไขปรึกษาปัญหาในครอบครัว ญาติขอให้กฎหมายลงโทษสูงสุด 
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 มีค พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ 1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ พ.ต.อ.สุราวุฒิ แสงรุ่งเรือง รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยาได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีจับกุมตัว ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ผบ.หมู่กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาข้อหา มิได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้น ทำลายศพเพื่อปีดบังการเสียชีวิตเหตุเกิด บ้านพักเลขที่ 84/24 ถนนเดชาวุธ ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ภายในกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 03.00 น.- ผู้เสียชีวิต คือน.ส.ธัญญ์นิศา หรือฝน วิชนันท์คุณนิธิเกี่ยวข้องเป็นคู่รักกับ ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ผบ.หมู่.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ทั้งคู่ได้มีปากเสียง และได้ทะเลาะวิวาทกับ ที่บ้านพักหลังดังกล่าว ขณะที่ น.ส.ธัญญ์นิศา ผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนที่นอน ส.ต.อ.ปิยะ ได้ใช้หมอนกดที่บริเวณศรีษะของ น.ส.ธัญญ์นิศา ขณะที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอนจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต จากนั้นเวลาประมาณ 03.45 น. ส.ต.อ.ปิยะฯ ได้นำถุงทะเลมาบรรจุศพของ น.ส.ธัญญ์นิศา ฯ และได้นำขึ้นรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียนป้ายแดง 5-1097 จ. พระนครศรีอยุธยา โดยบรรทุกทางด้านหน้าในลักษณะคร่อมถังน้ำมันไปที่ อาคารฝึกสุนัขดมกลิ่น ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาจากนั้นได้นำศพไปเก็บไว้ในสถานที่ดังกล่าว
ต่อมาเวลาประมาณ 23.15 น.วันเดียวกัน ส.ต.อ.ปิยะ ได้นำรถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีแดง หมายเลขทะเบียนตราโล่ 23463 ของทางราชการมาบรรทุกศพ น.ส.ธัญญันิศา และเข้าไปหยิบยางรถยนต์ จำนวน 2 วง จากบริเวณสนามยิงปืน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำไปใช้ในการเผาอำพรางศพ จากนั้นได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมายังอาคารฝึกสุนัขดมกลิ่น ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และบรรทุกศพ น.ส.ธัญญ์นิศา บรรทุกโดยใช้เส้นทาง โรจนะ มุ่งหน้า อ.วังน้อย เมื่อมาถึงบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขา วังน้อย แล้วได้จอดรถในช่องจอดที่ 2 ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น สาขา 04511 PTTORแล้วได้ลงไปซื้อขวดน้ำ ขนาด 5 ลิตร จำนวน 1 ขวด และไฟแช็ค จำนวน 1 อัน จากนั้นได้เทน้ำเปล่าทิ้งและได้นำขวดเปล่าไปบรรจุน้ำมันดีเซล จากช่องจ่ายน้ำมันช่องที่ 3 เป็นจำนวน 100 บาท จากนั้นได้ขับรถยนต์มุ่งหน้าไปยัง ซอยวิเชียรกลิ่นสุคนธ์ อบต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.นครศรีอยุธยา เพื่อทำการเผานั่งยางศพ น.ส.ธัญญันิศา 
จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 12 มีนาคม เวลาประมาณ 00.01 น. ส.ต.อ.ปิยะได้นำศพ น.ส.ธัญญ์นิศาลงจากรถคันดังกล่าวไปยังบริเวณพงหญ้า ภายในซอยวิเชียรกลิ่นสุคนธ์ ทำการเผานั่งยาง น.ส.ธัญญันิศา พร้อมด้วยถุงทะเลที่ใช้บรรจุศพ โดยบริเวณดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 3 ชม. จนกระทั่งสภาพศพไหม้หมดประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เวลาประมาณ 03.00 น.ส.ต.อ.ปิยะได้นำชิ้นส่วนศพที่เหลือจากการเผานั่งยาง นำบรรจุใส่ถุงอาหารสุนัข ที่เตรียมไว้ ขับรถไปยังบริเวณกลางสะพานศรีอโยธย อ.พระนคศรีอยุธยา เส้นทางมุ่งหน้าเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้เทชิ้นส่วนศพ ซึ่งมีขาส่วนล่าง กระดูกหัวหน่าว ถึงหัวเข่า และถุงอาหารสุนัขลงบริเวณดังกล่าว จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถกลับมายังที่พัก จนญาติมาแจ้งคนหายแล้วตำรวจเกิดความสงสัยนำตัวมาสอบสวนรับสารภาพดังกล่าว และนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที
สำหรับ น.ส.ธัญญ์นิศาหรือฝน วิชนันท์คุณนิธิ (ผู้ตาย) ได้อยู่กินกับ ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ผบ.หมู่.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา (ผู้ก่อเหตุ) มาประมาณ 3 ปี ไม่มีบุตรด้วยกัน โดยน.ส.ธัญญ์นิศา หรือฝน มีอาชีพขายอาหารประเภทยำ อยู่ย่านโรจนะ อ.อุทัย อาศัยอยู่ที่บ้านพักในกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา น.ส.ธัญญ์นิศาหรือฝน และ ส.ต.อ.ปิยะ มีเหตุทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำจากเรื่องหึงหวง ทะเลาะวิวาท เนื่องจากส.ต.อ.ปิยะ เกรงว่าแฟนสาวจะตีตัวออกห่างนั่นเอง
พล.ต.ท.อำพล กล่าวขอโทษญาติและสังคมในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา ไม่เคยคิดว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะใช้ความรุนแรงขนาดนี้ เพราะตำรวจต้องมีสติ และเป็นผู้มีความคิด ซึ่งเมื่อทำผิดเราก็ไม่เคยคิดปกป้อง หลังทราบเรื่องการหายตัวไปของภรรยาเขา เราก็ติดตามมาสอบจนยอมรับ และได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกท้องที่เพิ่มความใส่ใจดูแลความเป็นอยู่ปัญหาภายในครอบครัวตำรวจในสักกัด เพื่อหาทางร่วมกันให้คำแนะนำแก้ปัญหา
ด้านนางภาวินี ศุภศรี มารดาของน้องน้ำฝน เปิดเผยว่าผุ้ต้องหามาขอโทษแล้ว แต่ไม่อยากพูดอะไร ก็อโหสิให้ เพื่อให้วิญญาณลูกไปสู่สุขคติ ไม่ติดค้างกัน ลูกสาวเป็นเด็กขยัน ขายของตามตลาดนัดและย่านโรจนะ อ.อุทัย และปกติส.ต.อ.ปิยะ จะรักลูกสาวมาก แต่เวลาโกรธจะมีอารมณ์รุนแรงทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง ไม่คิดว่าจะมาทำถึงตาย อยากให้กฎหมายดำเนินคดีลงโทษสูงสุด และไม่อยากให้มีการประกันตัว โดยหลังเสร็จสิ้นเรื่องจะนำกระดูกของลูกสาวไปประกอบพิธีที่วัดเสนาสนาราม ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ต่อไป
