พระนครศรีอยุธยา-เจ้าของฟาร์มจระเข้สามพรานสมาคมเพื่อสวนสัตว์ไทย และผู้ประกอบการช้างโวย พรบ.ของ มกอช.สอดไส้ จะทำผู้ประกอบการช้างทั่วประเทศเดือดร้อน
เมื่อวันที่ 16 มีค. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี นายเกรียงไกร ชัยมงคลตระกูล กรรมการผู้จัดการลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพรานกรรมการสมาคมเพื่อสวนสัตว์ไทย พร้อมด้วยนายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย คณะกรรมการแก้ไขปัญหาแห่งชาติ ตัวแทนผู้ประกอบการช้าง ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี โดยยืนหนังสือผ่านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ( มกอช) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรีบจำทำการเสนอพระราชบัญญัติเรื่องการปฎิบัติที่ดี สำหรับปางช้างเป็นมาตรฐานบังคับ ซึ่งเป็นมิได้มีอำนาจหน้าที่
นายเกรียงไกร เปิดเผยว่า พรบ.ดังกล่าวจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการสวนสัตว์ที่มีช้าง และผู้ประกอบการเลี้ยงช้าง กรมปศุสัตว์ออกพรบ.ช้าง มกอช.ออกเรื่องมาตรฐานปางช้าง ดูดี แต่เมื่อดูไส้ในแล้วจะเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งทาง มกอช.พยายามที่จะผลักดันพ.ร.บ.นี้ พยายามทำประชาพิจารณด้วยการจัดสัมมนาแบบเร่งด่วน ใน พรบ.ที่เป็นประเด็นสำคัญคือหากทำไม่ได้ปรับ 3 แสนบาท และต้องพยายามขออนุญาตให้ได้ ต้องมีสัตวแพทย์ผู้ควบคุมปางช้าง โดยสัตวแพทย์ต้องผ่านการอนุญาตต่อกรมปศุสัตว์ โดยเฉพาะสวนสัตว์ต้องมีสัตวแพทย์ประจำ พอมีช้างก็ต้องมีสัตวแพทย์ผู้ควบคุมปางช้างอีก ทางปศุสัตว์ไม่เคยพูดถึงโทษที่ผู้ประกอบการจะได้รับเลย ทำให้เดือดร้อนมาก ตนเชื่อว่ามีใบสั่งที่จะเล่นงานกับผู้ประกอบการเลี้ยงช้าง เพราะไปฟังต่างชาติที่ชอบบอกว่าไทยทารุณช้าง จึงออกกฎหมายมารองรับให้ดูดี แต่ก็ทำได้ยาก ทั่วประเทศมีปางช้างประมาณ 250 ปาง ช้างประมาณ 4 พันตัว ต้องมีสัตวแพทย์ควบคุมปางช้างประมาณ 80 คนผ่านการอบรมจากกรมปศุสัตว์ ซึ่งทำไปทำมาสวนสัตว์หรือเจ้าของปางก็ต้องไปขอชื่อของสัตวแพทย์มาแขวน เสียเงินอีก ถ้าบังคับใช้ ให้เวลา 180 วันถ้าประกาศในราชกิจจา คณะตรวจสอบมาตรวจสอบ จะใช้เวลาตรวจปีหนึ่งหมดหรือไม่ นอกจากนี้ผู้ประกอบการจำต้องมีใบอนุญาต บางปางเช่าที่จากส่วนราชการ ไม่สามารถอนุญาตได้ ก็จะมีความผิด รวมไปถึงมาตรฐานอาหารของช้าง การมาร้องทุกข์ครั้งนี้เพื่อขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการช้างทั้งที่เป็นสวนสัตว์และปางช้าง ซึ่งยังมีรายละเอียดอื่นๆมากมาย ที่จะต้องหาทางแก้ไข ซึ่งตนเห็นว่าไม่มีความจำเป็นเลยที่ จะออก พรบ.นี้ ซึ่งหลังจากนายเสกสกล ได้รับเรื่องแล้ว ได้ให้รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมาพูดคุย โดยนัดหมายให้มีการเจรจรกันระหว่าง มกอช. กับตัวแทนสมาคมเพื่อสวนสัตว์ไทย และผู้ประกอบการช้าง ในวันที่ 24 มี.ค.นี้เวลา 13.00 น.
