พระนครศรีอยุธยา-“เสธช้าง”นายกอบจ.บวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ 5 พระองค์ วัดพุทไธศวรรย์ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ชวนคนไทยเที่ยววัดเก่า
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่วัดพุทไธสวรรย์ พล.ต.วรรธ อุบลเดชประชารักษ์ (เสธช้าง) ม.ร.ว.จันทลัดดา ยุคล เป็นประธานในพิธีบวงสรวง พระเจ้าแผ่นดิน ๕ พระองค์ ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณหน้าวัด โดยมีนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมศิษยานุศิษย์วัดพุทไธสวรรย์มาร่วมประกอบพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ โดยมีพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูน พระครูภาวนาภัทรคุณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดพุทไธศวรรย์พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในครั้งนี้
โดยจัดให้มีการประกอบพิธีพราหมณ์และเปลี่ยนผ้าภูษา และปล่อยปลาบริเวณหน้าวัด ซึ่งพล.ต.วรรธ อุบลเดชประชารักษ์ (เสธช้าง) อยากให้คนไทยและชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มาเที่ยวและดูแลวัดพุทไธศวรรย์ ซึ่งปัจจุบันหลายจุดซึ่งเป็นศาสนสถานเกิดการชำรุดและขาดการดูแล
สำหรับวัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดพุทไธศวรรย์เป็นพระอารามหลวงที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงวัดหนึ่ง ปรากฏตามตำนานว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างขึ้นในบริเวณที่ซึ่งเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับเมื่อทรงอพยพมาตั้งอยู่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ที่ตรงนี้มีชื่อปรากฏในพระราชพงศาวดารว่า “ตำบลเวียงเล็กหรือเวียงเหล็ก” ครั้นเมื่อสถาปนากรุงศรีอยุธยาแล้ว ถึง พ.ศ. 1896 จึงโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเป็นพระราชอนุสรณ์ ณ ตำบลซึ่งพระองค์เสด็จมาตั้งมั่นอยู่แต่เดิม และพระมหากษัตริย์องค์ต่อ ๆ มาก็คงจะได้โปรดให้สร้างถาวรวัตถุ เพิ่มเติมขึ้นอีกหลายอย่าง อนึ่ง เมื่อเสียกรุงฯ ในปี พ.ศ. 2310 วัดพุทไธศวรรย์ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มิได้ถูกพม่าทำลายเหมือนวัดอื่น ๆ โดยที่บริเวณหน้าวัดจะมีพระบรมอนุสาวรีย์ 5 บูรพกษัตริย์ ได้แก่ พระเจ้าอู่ทอง พระนเรศวร พระเอกาทศรถ พระเจ้าตากสิน และพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานอยู่ให้ประชาชนได้มาสักการะและรำลึกเกียรติประวัติที่ทรงมีต่อกรุงศรีอยุธยา ด้วย
