พระนครศรีอยุธยา-วุฒิสภาจุดประกายเปิดเส้นทางตามรอยพระราชดำริ ประเดิม 4 ทุ่งกับ 2 สถานที่สำคัญเชื่อมโยงเพื่อการท่องเที่ยวและการเรียนรู้เพื่อเชิดชูสถาบัน
วันที่ 15 ก.พ. นายประทีป การมิตรี รองผวจ พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุม แต่งตั้งคณะทำงานและวางแนวทางการดำเนินงานเส้นทางตามรอยพระราชดำริ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ วัฒนธรรมจังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬา ศึกษาธิการ ประชาสัมพันธ์ ปฏิรูปที่ดิน เกษตรจังหวัด เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการวิสามัญ การพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา โดยนายวิทยา ผิวผ่อง เป็นประธานได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาติดตามและสืบสานแนวพระราชดำริ เพื่อพิจารณาศึกษาติดตาม และดำเนินงานเพื่อสืบสานแนวพระราชดำริ ซึ่งได้กำหนดให้มีการฟื้นฟู พัฒนาสถานที่สำคัญ 4 เส้นทาง ได้แก่ อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ทุ่งภูเขาทอง และแปลงโฉนดที่ดินฉบับแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการหารือเพื่อให้ ทุ่งหันตรา หรืออนุสรณ์แห่งความจงรักภักดีเป็นพุทธมณฑลของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย 
ในโอกาสเดียวกันยังได้มีการเพิ่มเติมเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยพระราชดำริที่สำคัญอีกสองแห่งคือวัดไชยวัฒนาราม และวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร นอกจากนี้ยังจะขยายไปยังเส้นทาง ที่เกี่ยวข้องอีก 7 แห่งที่อยู่ในโครงการพระราชดำริ รวมทั้งเป็นสถานที่เคยมีการเสด็จ ได้แก่ คลองเปรมประชากร เขตบางไทร บางปะอิน โครงการแก้มลิงหนองเจ็ดเส้น บางปะหัน ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด บางปะอิน โครงการฟาร์มตัวอย่างหนองงูเห่า นครหลวง พระราชานุสาวรย์สมเด็จพระสุริโยทัย และพระบรมราชานุสาวรีน์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยที่ประชุมได้ให้การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัดวางเส้นทางการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว และบรรจุข้อมูลผ่านคิวอาร์โคทเพื่อสืบค้นข้อมูล โดยทางประชาสัมพันธ์จังหวัดยังให้แนวคิดในการเริ่มต้นการท่องเที่ยวที่ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยาก่อนเดินทางไปจุดต่างๆ
นายประทีป กล่าวว่า สิ่งแรกคือต้องการให้มีการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ และมีความเข้าใจในความสำคัญของสถานที่ต่างๆ ที่มาจากพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งพบว่าแต่ละแห่งมีผู้ดูแลรับผิดชอบต้องเข้ามาดูแล เรื่องจากบางแห่งทรุดโทรมมาก ต้องเร่งพัฒนาปรับปรุง จากนั้นนำเด็กนักเรียนไปชม ไปเรียนรู้ ให้เยาวชนศึกษาซึมซับสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และรัก ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทั้งหมดจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้ชุมชนได้ ทั้งนี้จะได้มีการสรุปเส้นทาง และจัดกิจกรรมตามช่วงเวลาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ต่าง ๆ ที่กล่าวมา เพื่อเชิญชวนไปเที่ยวต่อไป
