พระนครศรีอยุธยา-ผู้ว่าฯ เน้นย้ำผ่อนปรนร้านอาหารสถานบริการเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลต้องปฎิบัติตามกฎหมาย สั่งปกครองคุมเข้มจับฝ่าฝืนเกินเวลา ปรับสีพื้นที่ขายอาหารต่างอำเภอ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 30 เม.ย.ภายใต้การอำนวยการของ นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประพันธ์ ตรีบุบผา ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ ชุดปฏิบัติการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและบังคับใช้กฎหมายจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดย นายเอกรัฐ อิสโร จ่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายศุภกร อนันตรักษ์ ป้องกันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอัครศาสตร์ รักษาชนม์ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ พร้อมชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง ออกตรวจสถานประกอบการ 2 แห่ง ริมถนนสายแยก อบจ.ไปสะพานอโยธยา หลังจากได้รับร้องเรียนเป็นประจำในเรื่องการเปิดเกินเวลา
จากการเข้าตรวจค้นร้านแรก ม.1 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ยังมีการเปิดบริการและเปิดเพลงรวมทั้งจำหน่ายแอลกอฮอล์ล ตรวจพบการกระทำผิดและได้จับกุมนายอ๊อด อายุ 40 ปี บ้านเดิมอยู่ อ.สอง จ.แพร่ โดยแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ และฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 200/2565 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 76 ) ข้อ 3 การปรับปรุงมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (เฉพาะอำเภอพระนครศรีอยุธยา) การบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม จะเปิดให้บริการได้เฉพาะร้านที่ผ่านทำแบบประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand & Health Administration) ในระดับ SHA Plus กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หรือ ผ่านการตรวจตามมาตรฐานความปลอดภัยการป้องกันโรค Covid-19 รองรับสุขภาพวิถีใหม่ Thai Stop Covid 2 Plus ของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยแล้วเท่านั้น และให้บริการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น.
นอกจากนี้ยังตั้งข้อหา ตั้งสถานบริการ สถานที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการโดยหวังประโยชน์ในทางการค้า ประเภท สถานที่ที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่าย มีการเต้นหรือยินยอมให้มีการเต้น หรือจัดให้มีการแสดงเต้น เช่น การเต้นบนเวทีหรือการเต้นบริเวณโต๊ะอาหารหรือเครื่องดื่ม ตามมาตรา 3 (4) (ค) แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบัน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจร้านที่สอง ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ายังมีการเปิดขายแอลกอฮอล์ลและเกินเวลาเช่นกัน จึงได้จับกุมนายสมชาย อายุ29 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหา ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ 2509 ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยฝ่าฝืนวันหรือวันเวลาที่รัฐมนตรีกำหนด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ยินยอมปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีเข้าใช้บริการ ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยาดำเนินคดี
นายวีระชัย นาคมาศ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าตนได้มีการควบคุมและสั่งการมาโดยตลอดเกี่ยวกับสถานบริการหรือร้านอาหารให้ช่วยกันปฎิบัติตามระเบียบกัน เพื่อประคองตัวเองผ่านวิกฤตโควิด แต่ก็พบว่ามีการฝ่าฝืน จึงจำเป็นต้องดำเนินการเด็ดขาด ซึ่งจะพิจารณาว่าจะมีโทษเกี่ยวกับการสั่งปิดร้านหรือไม่อย่างไร และ ตามที่ ศบค.กำหนด ให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปลี่ยนจากพื้นที่ควบคุม เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งคณะกรรมการพิจารณายังคงไว้ตามมาตรป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด แต่ผ่อนปรนในเรื่องการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ที่จำกัดเวลาจากเดิมไม่เกิน 23.00 น. เป็นไม่เกิน 24.00 น. ต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting โดยพนักงานจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ทั้งนี้ ให้คงมาตรการสำหรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดในรูปแบบร้านอาหาร ได้ตามมาตรการที่กำหนด โดยต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อนเปิดบริการ ในส่วนการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน On-Site ให้เน้น 6 หลัก 6 เสริม 7 เข้ม เพื่อสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติตามหลัก DMHTTA อย่างเคร่งครัด การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย และไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
