พระนครศรีอยุธยา-ป.ป.ช. ป.ป.ท. และ ป.ป.ป. ร่วมแถลงข่าวการเข้าจับกุมตัวข้าราชการระดับสูงสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ข้อกล่าวหาทุจริตเงินโครงการมูลค่า 80,000 บาท
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 กย นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท และ พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวข้าราชการระดับสูง “สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา” หลังมีผู้ร้องเรียนทุจริตเงินโครงการของสำนักงานเบิกจ่ายเงิน 80,000 บาท เพื่อนำไปจัดงาน “พิธีบวงสรวงเทพยดาผู้รักสาเครื่องเกียรติยศประกอบศพ” เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ไม่ได้นำเงินไปใช้ในโครงการจริง ซึ่งถือว่าท่านยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่าจะศาลจะพิพากษา
นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า วันนี้ ป.ป.ช. ป.ป.ท. และ ป.ป.ป. ได้ร่วมกันวางแผนการจับกุม ข้าราชการระดับสูงของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหาใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อนุมัติให้มีการจัดทำโครงการพิธีกรรมทางศาสนาพิธีบวงสรวงเทพยดาผู้รักษาเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ที่จัดขึ้น ณ วัดใหญ่ชัยมงคล เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยใช้งบประมาณ จำนวน 80,000 บาท โดยข้อเท็จจริงไม่ได้ทำสัญญาว่าจ้างจริง โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารใบสั่งซื้อสั่งจ้างใบเสนอราคาให้ผู้ประกอบการดำเนินการ หลังจากนั้น เมื่อวานนี้มีการตั้งฎีกาเพื่อเบิกจ่ายเงินและโอนเงินไปให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 80,000 บาท แล้วให้ผู้ประกอบการเบิกเงินสดมาให้ จึงร้องเรียนมายัง ป.ป.ช. ก่อนเข้าจับกุม จึงเป็นที่มาของการวางแผนจับกุมครั้งนี้ ซึ่งรายละเอียดได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ เมื่อมีการถอนเงินออกมาแล้ว เราไปถ่ายแบงค์ จำนวน 80,000 บาท ราคาหมายเลข มีการลงบันทึกประจำวัน พยานหลักฐานที่ท่านเห็นมีการโอนเงินไปให้ผู้ประกอบการ จำนวน 79,100 บาท ส่วนหนึ่งที่หายไปก็คือว่าเป็นเรื่องของค่าโอน ค่าธรรมเนียม การหักภาษี ณ ที่จ่าย วันนี้เขาเลยเอาเงินก้อนนี้ตามข้อสั่งการของวัฒนธรรมจังหวัดเอามาให้ที่ห้องทำงาน จึงปรากฎหลักฐานที่ชัดเจน ในชั้นนี้เราได้ทำการจับกุม ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ดีๆ โดยเฉพาะข้าราชการในพื้นที่ โดยเฉพาะในสังกัดของสำนักงานวัฒนธรรมเอง ถือว่าเป็นคนที่ไม่ทนต่อการทุจริตที่เกิดขึ้น เราต้องหาข้าราชการดีๆ แบบนี้ต้องส่งเสริมให้ความเป็นธรรมกับคนที่กระทำการดีๆ ในเรื่องของการแจ้งเบาะแส
นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท กล่าวว่า วันนี้ ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่านหนึ่งที่ปฎิบัติหน้าที่ในสังกัดของผู้ต้องหาและเป็นผู้แจ้งเบาะแสให้รายละเอียดต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นไปตามนโยบาย ของนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงาน ปปท. ในฐานะฝ่ายเลขาของศูนย์อำนวยการการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ก็จะลงมากำกับดูแลต้นสังกัดให้ดำเนินการทางปกครองและวินัยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐรายนี้ที่ทำความผิดต้นสังกัดเอง ท่านมีอำนาจและหน้าที่ ที่จะไปลงโทษลงทัณฑ์ ด้วยความโปร่งใส รวดเร็วและเป็นธรรม ซึ่งเรื่องนี้ขอเรียนว่า นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญทางศูนย์อำนวยการต่อต้านการจริตแห่งชาติว่า ถ้าหากพบเจ้าที่ของรัฐที่กระทำความผิดต้นสังกัดเองต้องไปดำเนินการขั้นเด็ดขาดต้องไม่ปล่อยให้ สถานการณ์การทุจริตมันรุนแรงไปกว่านี้ ในกรณีเช่นนี้ซึ่งวันนี้เราได้เห็นแล้วว่าก็ยังมีเจ้าที่ของรัฐเองกระทำความผิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่มาให้เบาะแสซึ่งเราต้องการเรียกร้องอยากจะเห็นตัวอย่างแบบแบบนี้ อีกเยอะ
ข่าวน่าสนใจ:
พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป กล่าวว่า ในส่วนของกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ได้รับการประสานกับ ปปช.และ ปปท. ในเรื่องดังกล่าว โดยเบื้องต้นเราได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ในเรื่องของการสืบสวน ซึ่งเราได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานวัฒนธรรม ซึ่งต้องขอชื่นชมที่เจ้าหน้าที่ที่ไม่ยอมในเรื่องของการทุจริต จากตรวจสอบ พบว่ามีความผิดจริงและมีการดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดว่ามีการทำความผิดจริง จนมาถึงการปฎิบัติการครั้งนี้ ซึ่งในกระบวนการได้แจ้งข้อกล่าวหาโดยแจ้งจับกุม 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังซับนั้นเป็นของตนหรือเป็นผู้อื่นโดยทุจริตหรือทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสียตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อจัดทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐมาตรา 151 เบื้องต้นได้นำตัววัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปดำเนินคดีที่กองกำกับการ 2 ที่กองปราบกองบัญชาการสอบสวนกลาง กรุงเทพฯ โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ทั้งนี้ เราก็มีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งในส่วนของตำรวจก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วก็สอบ โดยเราจะทำการขยายผลเพราะว่าเราเชื่อว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ในส่วนของการดำเนินการต่อไปเราก็จะให้โอกาสเพราะถือว่าท่านยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ซึ่งเราก็ให้โอกาสในการประกันตัว ขั้นตอนต่อไปเราจะรวบรวม สอบปากคำเสร็จ เราจะส่งสำนวนให้ ปปช. ภายใน 30 วัน และหลังจากนั้นเราจะขอสำนวนจาก ปปช. มาดำเนินคดีเองและจะดำเนินการในชั้นศาลต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: