พระนครศรีอยุธยา-ผู้ว่าฯชลประทานเปิดยุทธการกู้ถนนเจ้าเจ็ดที่ถูกน้ำพัดจนขาด จนสามารถใช้การได้ภายใน 3 วัน ชะลอน้ำเข้าทุ่งบางยี่หน ฝากกระทรวงเกษตรเยียวยาเกษตรกรพื้นที่รับน้ำ 
หลังจากเมื่อกลางดึกวันที่ 17 ตุลาคม เกิดเหตุถนนคันคลองชลประทาน ใกล้ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ที่ 7 ตำบลรางจระเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัว และขาดเป็นระยะทางเกือบ 8 เมตร น้ำไหลบ่าเชี่ยวแรงเข้าคลอง เจ้าเจ็ด – บางยี่หน สู่พื้นที่ท้ายน้ำ อำเภอเสนา อำเภอบางซ้าย และ อำเภอลาดบัวหลวง นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยชลประทานจังหวัดฯ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอเสนา นายพงศกร มงคลหมู่ นายก อบต.รางจระเข้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเดินทางเข้าพื้นที่ทันที เบื้องต้นพยายามตัดกระแสไฟฟ้า และเตือนประชาชนท้ายน้ำพร้อมทั้งรักษาพื้นที่ของถนนส่วนที่เหลือไม่ให้มีการแตกขยายวงกว้าง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯอยู่อำนวยการวางแนวชลอน้ำจนถึงเช้า
สายวันที่ 18 ตค นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ถนนคันคลองชลประทาน ใกล้ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ที่ 7 ตำบลรางจระเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัว กว้างประมาณ 5 เมตร น้ำไหลบ่าเชี่ยวแรงเข้าคลอง เจ้าเจ็ด – บางยี่หน สู่พื้นที่ท้ายน้ำ อำเภอเสนา อำเภอบางซ้าย อำเภอลาดบัวหลวง โดยทางกรมชลประทานได้ระดมเครื่องจักรกล รวมถึงกล่องหินเกเบี้ยน แล้วนำไปวางบริเวณจุดที่ถนนขาด เพื่อชะลอการไหลของน้ำและป้องกันการกัดเซาะถนนขาดเพิ่มขึ้นจาก โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมกำลังทุกภาคส่วนในการดำเนินงานอุดรอยรั่วของน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งพบว่ารอยขาดมีขนาดกว้างขึ้นประมาณ 8 เมตร ซึ่งหากไม่รีบแก้ไข น้ำที่ทะลักข้ามฝั่ง อาจจะไหล่บ่าเข้าท่วมโรงพยาบาลเสนา ที่อยู่ท้ายน้ำ จะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น โดยทางอธิบดีกรมชลประทานสั่งเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจากนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทางกรมชลประทานได้จัดทีมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรหนัก เพื่อเตรียมทำการแก้ไขถนนเส้นดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไม่ให้เดือดร้อนมากไปกว่านี้ โดยทางกรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรหนัก รวมถึงวัสดุที่จะใช้ในการซ่อมแซม ทั้งนี้เพื่อให้สามารถช่วยประชาชนได้อย่างทันท่วงที
เย็นวันเดียวกัน นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ พร้อมด้วย นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา นายเอนก ก้านสังวอน ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกลกรมชลประทาน พ.อ. ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.รมน.ป้องกันและบรรเทา สาธารณะภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่รุดตรวจความคืบหน้าการดำเนินการกู้แนวถนนชลประทาน บริเวณประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ที่ 7 ตำบลรางจระเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัว กว้างประมาณ 8 เมตร โดยทางกรมชลประทานบรรจุหินลงในตาข่าย จำนวนกว่า 500 ใบ น้ำหนักใบละ 1 คิว วางเรียงกั้นน้ำบริเวณที่ถูกกัดเซาะ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า มวลน้ำยังไม่มีผลกระทบต่อชาวบ้านท้ายน้ำ เพราะน้ำส่วนใหญ่จะไหลเข้าทุ่ง แต่จะมีผลระดับน้ำสูงขึ้นเฉลี่ยวันละ 1 ซม. คาดว่าเร็วที่สุดจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน ในการปิดทางน้ำ โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกรมชลประทานจะเร่งดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุด เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมกำลังทุกภาคส่วนในการอุดรอยรั่วของน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอท้ายน้ำ ได้แก่ อำเภอบางซ้าย อ.บางซ้าย และ อ.เสนา โดยชลประทานได้ดำเนินการวางแนวป้องกันตลอดทั้งคืน จนสามารถกั้นน้ำได้ 
วันที่ 19 ต.ค. นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนากร ตันติกุล ชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา นายเอนก ก้านสังวอน ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการดำเนินการกู้แนวถนนชลประทาน บริเวณประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ที่ 7 ตำบลรางจระเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัว กว้างประมาณ 15 เมตร เพื่อเร่งลดผลกระทบจากน้ำเข้าท่วมเพิ่มในพื้นที่ 3 อำเภอท้ายน้ำ ได้แก่ อำเภอบางซ้าย อ.ลาดบัวหลวง และ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยทางกรมชลประทานบรรจุหินลงในตาข่าย Gabion จำนวนกว่า 500 ใบ น้ำหนักใบละ 1 คิว วางเรียงกั้นน้ำบริเวณที่ถูกกัดเซาะ ซึ่งเร่งดำเนินการต่อเนื่องติดต่อมาตั้งแต่คืนวันที่ 17 ตุลาคม จนกระทั่งวันนี้ (19 ตุลาคม 2565) รวมเวลา 3 วัน 2 คืน จึงได้ดำเนินการซ่อมถนนที่ขาดบริเวณประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด ได้สำเร็จแล้ว
โดย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร กล่าวว่า ขณะนี้การซ่อมแซมถนนทางเข้าประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ดเสร็จแล้ว ในนามของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องกราบขอบพระคุณทางอธิบดีกรมชลประทาน ท่านประพิศ จันทร์มา ที่ได้กรุณาส่งทีมงานจากส่วนกลาง และ ชป.ในพื้นที่มาดำเนินการ 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกคนเหน็ดเหนื่อยมาก แล้ววันนี้สำเร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไป ทางทีมงานก็จะเอาหินคลุลง เพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ สำหรับเกษตรกร เป็นไปตามหลักเกณ์ของกระทรวงเกษตร จะช่วยเหลือกรณีพืชผลเสียหาย เช่น นาข้าว สวนผลไม้ เป็นต้น ในส่วนของชาวบ้านของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความต้องการให้ช่วยกรณีกำหนดเป็นพื้นที่ทุ่งรับน้ำ 7 ทุ่ง ปัจจุบันน้ำท่วมมาเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว และยังต้องอยู่กับน้ำอีกประมาณเดือนเศษ ประชาชนอยากให้รัฐบาลช่วยชดเชยให้เพิ่มเติม ขณะนี้ สถานการณ์น้ำของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลจากแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสักชลสิทธิ์ แม่น้ำน้อย และแม่น้ำลพบุรี ซึ่งลดลงทุกวัน และมีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อยๆ จากการคาดการณ์บางพื้นที่ไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์จะเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่นอกกันกั้นน้ำที่ยังคงได้รับผลกระทบ จึงได้มอบหมายให้ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าไปดูแลช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการดำรงชีวิต และการให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ต่อไป
