พระนครศรีอยุธยา-ททท.กรุงเก่าจับมือสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ฯ เปิดโปรแกรมชมโบราณสถานยามค่ำคืน บอกเลยใครไม่เคยเดินกลางคืนในเมืองเก่า บรรยากาศอีกฟีลจริงๆ
หลังจากที่ กรมศิลปากร จัดกิจกรรมสุดพิเศษเพื่อให้ทุกท่านยลโฉมความงามของโบราณสถานยามค่ำคืน ในงาน…ราตรีนี้…ที่วัดไชยฯ Ayutthaya…Sundown…โดยเปิดให้ท่านเข้าชม วัดไชยวัฒนาราม ผ่าน แสง สี จากการประดับไฟ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น.(ซื้อบัตรเข้าชมได้ถึงเวลา 21.00 น. ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และเทศกาลสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก จนสถานที่จอดรถแทบจะไม่เพียงพอ ประกอบกับเป็นกระแสจากละครดัง”พรหมลิขิต” ยิ่งทำให้ผู้คนอยากมาเห็นความงามในเมืองเก่าแห่งนี้
ล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท)พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสำนักศิลปากรที่ 3 อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เตรียมเปิดโปรแกรม “ไนต์แอดเดอะเทมเพิล” หรือ Night at the Temples 2023 ท่องเที่ยวโบราณสถานในยามค่ำคืน โดยนายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผ.อ.ททท.พระนครศรีอยุธยา นายมานัส ทรัพย์มีชัย นายกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา นางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผ.อ.สำนักศิลปากรที่ 3 และนายภัทรพงศ์ เก่าเงิน ผ.อ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้สำรวจความพร้อมโบราณสถานภายในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา 4 แห่งได้แก่วัดพระราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุและวัดราชบูรณะ ซึ่งมีความพร้อมที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในเวลากลางคืนอีกโปรแกรมหนึ่ง ซึ่งจากการเดินสำรวจบอกเลยว่าใครที่ไม่ได้มาสัมผัสบรรยากาศกลางโบราณสถานยามค่ำคืนถือว่าผิดหวัง นอกจากความงามของโบราณสถานที่ถูกไฟสาดส่องแล้ว ยังสัมผัสกับความเย็นจากกลิ่นอายของต้นไม้รอบบริเวณ เป็นความงามยามราตรีที่ต้องมาสักครั้ง
นายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผ.อ. ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 800,000 คนต่อเดือน เฉลี่ยเป็นชาวไทย 700,000 คน และต่างชาติ 100,000 คน หากเทียบกับปี 2565 มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวของจังหวัดจะพยายามทำให้ได้ 80% ของตัวเลขปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอยุธยามากที่สุด รวมเกือบ 40 ล้านคนต่อปี แต่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาค่อนข้างอยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางไปเช้า-กลับเย็น และจากข้อมูลของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หลังละครเรื่องพรหมลิขิตได้มีการออนแอร์ไป พบว่ามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดิมช่วงวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) มีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000 คนต่อวัน ตอนนี้เพิ่มขึ้น 2,000-3,000 คนต่อวัน
โดยมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคนไทย และหลังจากกรมศิลปากรได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมวัดไชยวัฒนารามตอนกลางคืนได้ เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000-2,000 คนต่อวัน ถือว่าได้การตอบรับที่ดี นอกจากนี้ มีกิจกรรมล่องเรือรับประทานอาหารเย็น ซึ่ง“ไนต์แอดเดอะเทมเพิล” หรือ Night at the Temples 2023 ท่องเที่ยวโบราณสถานในยามค่ำคืน จะกระตุ้นเศรษฐกิจและสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนและสร้างรายได้ให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
นายมานัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นจำนวนมากช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จากที่เดินทางแบบไป-กลับ ไม่พักค้างคืนหลังจากมีกระแสของละคร และทางกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้อนุญาตเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมวัดไชยวัฒนารามในเวลากลางคืนได้ จนถึงเวลา 22.00 น. ในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ทำให้โรงแรมมีการจองเข้าห้องพักประมาณ 80% มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเฉลี่ย 20,000 คนต่อวัน ขณะที่วันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 2,000 คนต่อวัน
สำหรับการจัดให้นักท่องเที่ยวชมความงามโบราณสถานในเวลากลางคืนเพิ่มอีก 4 แห่ง ได้แก่ วัดพระราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดราชบูรณะ และวัดมหาธาตุ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป จนถึง 31 มีนาคม 2567 โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า “ไนต์แอดเดอะเทมเพิล” จะเปิดให้บริการศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ กรุ๊ปละ 20 คน ค่าบริการประมาณ 950 บาทต่อคน ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มีรถตุ๊กตุ๊กรับ-ส่ง ให้บริการ 4 รอบต่อวัน รอบแรกเวลา 18.30 น. รอบสองเวลา 19.00 น. รอบสามเวลา 19.30 น. รอบสี่เวลา 20.00 น. โดยแต่ละรอบต้องมีหัวหน้าไกด์ ผู้ช่วยไกด์ เจ้าหน้าที่กรมศิลป์เข้าไปดูแล รวมถึงทำประกันชีวิตให้กับนักท่องเที่ยว โดยกิจกรรมดังกล่าวต้องทำในรูปแบบบริษัททัวร์ แม้ทางกรมศิลปากรได้มีการอนุญาตเปิดให้บริการ แต่จะต้องเข้าไปเป็นหมู่คณะ หรือกรุ๊ปทัวร์ เนื่องจากมีบางจุดที่ค่อนข้างมืด ส่งผลอันตรายต่อนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวพักค้างแรมที่จังหวัดอยุธยาให้เพิ่มมากขึ้น จะทดลองให้บริการประมาณ 2 สัปดาห์ หากได้กระแสตอบรับที่ดีจะมีการโปรโมตประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ ปัจจุบันจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีห้องพักเปิดให้บริการประมาณ 2,000 กว่าห้อง เปิดให้บริการ 100% และคาดว่าช่วงไฮซีซั่นเดือนธันวาคม 2566 อัตราการเข้าพักน่าจะ 90-100% อีกทั้งยังเป็นการต้อนรับการเตรียมจัดงาน ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกฯที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.2566 ถึง 24 ธ.ค.2566 ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: